LOGO blackjackarmy
LOGO blackjackarmy
Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

BlackJack 10 ประเภทที่มักเจอใน คาสิโนออนไลน์

BlackJack 10 ประเภทที่มักเจอใน คาสิโนออนไลน์

( BlackJack 10 ประเภทที่มักเจอใน คาสิโนออนไลน์ )ถามก่อนว่ามึนกับเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ใน คาสิโนออนไลน์ ไหม บอกได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่า มึน!!! ใครที่เริ่มต้นเล่นไพ่ชนิดนี้แรก ๆ ก็คิดว่าง่ายแหละครับ เพราะไพ่ 21 หัวใจสำคัญคือทำไงก็ได้ให้แต้มไม่เกิน 21 แต้มและเอาชนะเจ้ามือให้ได้ หากจะมีกฎอะไรแปลก ๆ เข้ามาก็ไม่ยากเกินไป ส่วนใหญ่ก็แค่เดิมพันข้างแบบพิเศษ ไม่ก็มีการวางประกันเดิมพันไว้ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าเกมไพ่ BlackJack จะมีมากมายจนตาลายไปหมด แต่เชื่อไหมว่าเห็นเยอะแบบนี้มันมีแค่ 10 ประเภทเท่านั้น ว่าแต่มีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า

คุณอาจสนใจสูตรเดินเงินเกมไพ่แบล็คแจ็ค คลิกอ่าน สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า

Classic BlackJack

  1. Classic BlackJack

เริ่มต้นกันที่เกมฮิตที่มีอายุหลายร้อยปีด้วยไพ่ 21 หรือที่เรียกกันว่า คลาสสิค แบล็คแจ็ค เลยก็แล้วกัน แม้ว่าดั้งเดิมจะใช้ไพ่แค่ 1 สำรับ แต่พอถูกจับเข้าไปไว้ใน คาสิโนออนไลน์ เจ้ามือก็ขอเพิ่มความได้เปรียบเข้าไปด้วยไพ่ที่มากถึง 6-8 สำรับแทน โดยผู้เล่นจะต้องแข่งขันกับเจ้ามือ ซึ่งเจ้ามือจะแจกไพ่ให้ผู้เล่นก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง ไพ่ของเจ้ามือจะถูกหงายไว้ให้เรามองเห็นได้แค่ 1 ใบ ส่วนอีกใบที่เรียกว่า Hold Card จะถูกคว่ำไว้ วิธีเอาชนะคือเราต้องติด BlackJack ให้ได้ด้วยไพ่คู่แรก ไม่อย่างนั้นก็ต้องจั่วไพ่เพิ่มไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แต้มที่มั่นใจว่าได้มากกว่าเจ้ามือแน่ ๆ แต่ต้องระวังด้วยว่าอย่าให้แต้มรวมของไพ่เกิน 21 แต้ม เพราะเกมนี้เราไม่มีสิทธิทิ้งไพ่ เกินเมื่อไหร่แพ้ได้ทันที ส่วนเจ้ามือก็จะจั่วไพ่เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แต้มรวมตั้งแต่ 17 แต้มขึ้นไปถึงจะหยุดได้

นอกจากนี้หากไพ่หงายของเจ้ามือเป็น A เราจะสามารถทำประกันเดิมพันหรือที่เรียกว่า Insurance ได้ หรือจะยอมแพ้ด้วยการ Surrender ก็ได้ แต่ต้องทำในช่วงที่มีไพ่แค่สองใบแรกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Classic BlackJack ถือได้ว่าเป็นรากฐานของ BlackJack ประเภทต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย

  1. Progressive BlackJack

แบล็คแจ็ค ประเภทนี้จะมีวิธีการเล่นเหมือนกับ Classic BlackJack เกือบทุกอย่าง และพบได้ง่ายตาม คาสิโนออนไลน์ แต่มีความแตกต่างตรงที่เราจะได้ลุ้นเงินแจ็คพอตที่ถูกสะสมมาเรื่อย ๆ จากนักพนันที่ร่วมแข่งขัน วิธีการแข่งก็คือเราจะต้องเลือกโต๊ะที่มีการให้เล่นแจ็คพอตเสียก่อน จากนั้นต้องวางเงินที่เรียกว่า Side bet ประมาณ $1 เพื่อเข้าร่วมเล่น Progressive Jackpot ซึ่งมันจะถูกส่งไปสะสมเป็นเงินแจ็คพอต ทั้งนี้ คาสิโนออนไลน์ แต่ละที่จะกำหนดมูลค่าของการวางเงินแจ็คพอตไม่เท่ากัน และการจ่ายก็จะแตกต่างกันไป อาจถูกกำหนดตามมูลค่าไพ่ในมือ

  1. European BlackJack

เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีวิธีการเล่นคล้ายกับ Classic BlackJack ต่างกันที่จำนวนไพ่ที่ใช้ในการเล่น ซึ่งแบบ European จะใช้ไพ่เพียงแค่ 2 สำรับ ไม่ก็ 4 หรือ 6 สำรับ ในการแจกไพ่ผู้เล่นจะได้รับไพ่หงายทั้งสองใบ ส่วนเจ้ามือจะมีไพ่ใบเดียวหงายอยู่บนโต๊ะ จากนั้นผู้เล่นจะต้องเลือกว่าจะเล่นด้วยตัวเลือก Hit, Stand, Double Down, Split โดยขั้นตอนทั้งหมดจะต้องทำให้จบก่อนที่เจ้ามือจะเรียกไพ่ใบที่ 2 หาก Hit มาแล้วติด BlackJack จะถือว่าเจ้ามือชนะทุกกรณี นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับผู้เล่นคือ

  • ผู้เล่นจะ Double Down เมื่อได้แต้ม 9, 10 หรือ 11 เท่านั้น
  • เจ้ามือจะมองเห็นไพ่ใบที่สองได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นหยุดเล่น
  • ไม่มีการ Surrender ทุกกรณีใน European Blackjack
  • ไพ่คู่ AA จะไม่สามารถทำการแยกซ้ำ หรือ Re-Split ได้อีกหลังจากที่โดนแยกมาจากคู่แรกแล้ว
  1. Atlantic City BlackJack

จากบรรพบุรุษ Classic BlackJack มาถึง Atlantic City แม้จะมีกติกาที่คล้ายกัน แต่จำนวนไพ่ก็ยังคงต่างกันคือ Atlantic City จะใช้ไพ่ 8 สำรับ ผู้เล่นและเจ้ามือจะได้รับไพ่ 2 ใบเหมือนกัน แต่เจ้ามือจะสามารถแอบมองไพ่ใบที่คว่ำอยู่ได้ สำหรับเงื่อนไขการ Hit ของเจ้ามือคือจะต้อง Hit ไปจนกว่าจะรวมแต้มได้ไม่น้อยกว่า 17 แต้ม ส่วนผู้เล่นจะสามารถ Split ได้สูงสุด 3 มือ และทำ Late Surrender หรือ Insurance ระหว่างที่เล่นเกมได้ด้วย

  1. Spanish 21

ย้ายมาทางฝั่งสเปนกันบ้าง โดยไพ่ Spanish 21 จะใช้ไพ่ในการเล่นตั้งแต่ 6-8 สำรับ และมีการเอาหน้า 10 ออกจากกองไพ่ ทำให้เหลือไพ่แค่ 48 ใบต่อสำรับ เรียกได้ว่ามีโอกาสที่เสียค่าเสียโอกาสให้กับเจ้ามือมากกว่า แบล็คแจ็ค ประเภทอื่น ๆ ส่วนวิธีการเล่นก็เหมือนกับแบบคลาสสิค เจ้ามือจะสามารถมองไพ่ที่คว่ำอยู่ได้และชนะทันทีที่ได้ BlackJack แต่ถ้าผู้เล่นได้ BlackJack ด้วยก็จะถือว่าเสมอกัน ทั้งนี้ผู้เล่นสามารถ Late Surrender หรือ Insurance ได้ และสามารถ Double Down หลังจาก Surrendering ได้อีกด้วย

Progressive BlackJack

  1. BlackJack Switch

ความพิเศษของไพ่ประเภทนี้คือ ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนไพ่ใบใดใบหนึ่งได้ 1 ใบหลังจากที่ได้รับแจกไพ่ 2 ใบจากเจ้ามือ แต่ก็แลกกับอัตราจ่ายที่ต่ำเพียง 1 : 1 เมื่อเทียบกับ แบล็คแจ็ค ทั่วไปที่จ่ายกันที่ 3 : 2 นอกจากนี้หากเจ้ามือติด BlackJack ก็ถือว่าชนะทันทีในกรณีที่ผู้เล่นมีการเปลี่ยนไพ่ แต่ถ้าผู้เล่นได้ BlackJack เหมือนกันโดยที่ไม่เปลี่ยนไพ่ก็จะถือว่าเสมอกัน

  1. Vegas Strip Blackjack

Vegas Strip จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ที่มีชื่อเสียงในอเมริกา ก่อนที่จะแพร่กระจายความนิยมไปทั่วโลก กติกาจะคล้ายกับแบบคลาสสิค แต่ใช้ไพ่เล่นแค่ 4 สำรับ โดยที่เจ้ามือสามารถแอบมอง Hole Card ได้ ส่วนผู้เล่นจะสามารถ Double Down หลังจาก Split ไพ่คู่ AA เท่านั้น และสามารถ Re-Split ได้ 3 ครั้ง

  1. Pontoon

เป็นเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ที่นิยมเล่นกันในฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย และสิงคโปร โดยชื่อ Pontoon นอกจากจะใช้เรียกไพ่ BlackJack แล้วยังใช้เรียกการติดไพ่ BlackJack อีกด้วย ส่วนการ Hit จะเรียกว่า Twist ส่วน Stand จะใช้คำว่า Stick ในส่วนของกติกาการเล่นจะมีความใกล้เคียงกับ Spanish 21 มากที่สุด คือเอาไพ่หน้า 10 ออกจากสำรับ นอกจากนี้ยังไม่มีการแจก Hole Card ให้กับเจ้ามือจนกว่าผู้เล่นจะเล่นเสร็จ

  1. Live BlackJack

เป็นการเล่นผ่านระบบออนไลน์ หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า คาสิโนสด โดยผู้เล่นจะเล่นผ่านการถ่ายทอดสดและสามารถวางเดิมพันด้วยการกดปุ่มควบคุมการเล่น ซึ่งเราจะสามารถเลือกประเภทของ แบล็คแจ็ค ได้ว่าต้องการเล่นแบบไหน นอกจากนี้ คาสิโนออนไลน์ หลายที่ก็มีให้เราได้ทดลองเล่นฟรีกันก่อนด้วย เพื่อที่จะได้ใช้ฝึกมือก่อนลงสนามจริง

  1. Super Fun 21 BlackJack

ประเภทสุดท้ายนี้แทบจะเรียกได้ว่ามันคือ แบล็คแจ็ค ภาคพิสดารของแท้ เพราะ Super Fun 21 เราจะได้รับไพ่ 2 ใบเช่นเดียวกับเจ้ามือ แต่เราจะมีโอกาสแอบมอง Hole Card ความพิเศษของ Super Fun 21 ก็คือหากเรามีไพ่ในมือเท่ากับ 6 ใบหรือมากกว่านี้ และมีแต้ม 20 หรือ 21 เราจะชนะเจ้ามือทันทีแม้ว่าอีกฝ่ายจะติด BlackJack ไปแล้วก็ตาม

Live BlackJack

นอกจากนี้เรายังสามารถ Split ได้มากถึง 4 ครั้ง จะทำ Double Down ตอนไหนยังไงก็ได้ ไม่มีการกำหนดว่าต้องมีไพ่กี่ใบถึงจะเพิ่มเดิมพันได้ แถมยังสามารถเพิ่มเงินเป็นสองเท่าในขณะที่มีไพ่ 5 ใบอยู่ในมือได้อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ แบล็คแจ็ค ทั้ง 10 ประเภทที่เราจะได้เห็นกันใน คาสิโนออนไลน์ ถึงจะดูเยอะแยะมากมาย แต่ถ้ามีพื้นฐานจาก Classic BlackJack แล้วล่ะก็สามารถเอามาต่อยอดได้ทุกประเภท จะมีที่ต้องทำการบ้านกันเหนื่อยหน่อยก็ตรง Super Fun 21 ที่ค่อนข้างแหวกแนว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการเล่นรูปแบบไหน ประเภทใด จำไว้กว่ากลยุทธ์ที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพียงเท่านี้เงินรางวัลก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะครับ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน

BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน

( BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน )รู้หรือไม่ครับว่านอกจากโป๊กเกอร์แล้ว แบล็คแจ็ค ก็เป็นอีกหนึ่งเกมพนันที่มีการแข่งขันในรูปแบบทัวร์นาเม้นต์เหมือนกัน โดยเขาเริ่มกันมาตั้งแต่ปี 2002 กันแล้ว และเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันแทบจะเรียกได้ว่าพลิกชีวิตกันเลยทีเดียว จึงทำให้ BlackJack Tournament เป็นเสมือนสังเวียนของนักเล่นไพ่ 21 วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกันครับว่าเขาเล่นกันยังไง ต่างจากที่เราเล่นตาม คาสิโนออนไลน์ ตรงไหนบ้าง

หากสนใจอยากเล่นแบล็คแจ็ครูปแบบอื่นบ้าง อ่านต่อ BlackJack American Style เล่นอย่างไรมาดูกัน

แบล็คแจ็ค ทัวร์นาเม้นต์ คืออะไร

สำหรับ แบล็คแจ็ค ทัวร์นาเม้นต์ เป็นการแข่งขันกันที่เต็มไปด้วยนักเดิมพัน BlackJack ระดับโลกมากมาย ทั้งผู้เล่นที่เป็นระดับตำนาน นักพัฒนาสูตรการเล่น นักกลยุทธ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีผู้เล่นทั่ว ๆ ไปที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศแห่งความกดดันในการแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ซึ่งกว่าจะเข้าไปแข่งขันได้ผู้เล่นจำเป็นต้องศึกษาวิธีการเข้าร่วมเดิมพัน รายละเอียดต่าง ๆ รวมไปถึงกลยุทธ์ที่จะเอาไปใช้ ถ้าใครเตรียมตัวมาไม่ดีบอกเลยว่าตายตั้งแต่โต๊ะแรกแน่ เสียทั้งเดิมพันเสียทั้งค่าสมัครแบบไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลย

การเล่นแบบทัวร์นาเม้นต์ถ้าจะให้เข้าใจง่ายมันคือการแข่งแบบแพ้คัดออก คนที่ชนะก็จะมีสิทธิในการเล่นรอบต่อไป ยิ่งรอบลึกเงินรางวัลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

BlackJack Tournament คืออะไร

ความแตกต่างระหว่าง BlackJack ทั่วไปกับ BlackJack Tournament

หากเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดแล้วล่ะก็ เราพอจะแบ่งแยกความแตกต่างระหว่าง แบล็คแจ็ค ทั้งสองประเภทได้ดังนี้

  1. การสู้กันถ้าเป็นแบบทั่วไปจะเป็นการสู้กับเจ้ามือเท่านั้น แต่ถ้าเป็นทัวร์นาเม้นต์เราจะต้องสู้กับผู้เล่นคนอื่นในโต๊ะด้วย
  2. เป้าหมายในการเล่นแบบทั่วไปคือเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะ ส่วนทัวร์นาเม้นต์จะชนะด้วยการสะสมชิปเดิมพันให้มากกว่าคู่แข่งคนอื่น แม้ชิปที่ได้รับจะน้อยกว่าชิปเดิมพันเริ่มต้นของเราเองก็ตาม
  3. การแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นต์ เราจะมีโอกาสชนะเงินเดิมพันจำนวนมากหากเป็นการแข่งในระดับใหญ่ ๆ พร้อมกับโบนัสต่าง ๆ ซึ่งไม่มีในการเล่น แบล็คแจ็ค แบบทั่วไป
  4. ผู้เล่นจะต้อง Buy-in ชิปพร้อมกับจ่ายค่าธรรมเนียมในการเล่นทัวร์นาเม้นต์ และจะมีการกำหนดการขาดทุนขั้นต่ำไว้ แต่การเล่นในแบบทั่วไปตาม คาสิโนออนไลน์ จะมีการกำหนดเงินขาดทุนขั้นต่ำ เพราะไม่มีการจำกัดเงินเดิมพันทั้งหมด
  5. ในแง่ของการใช้กลยุทธ์หากเป็นการเล่นแบบทั่วไปแค่การนับไพ่ หรือกลยุทธ์พื้นฐานไม่กี่อย่างก็เพียงพอแล้ว ต่างจากทัวร์นาเม้นต์ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย ๆ
  6. ในการพัฒนาไพ่ของตัวเองเราจะสามารถใช้วิธีการนับไพ่และดูไพ่ได้ในการเล่นแบบทั่วไป ถ้าเป็นการเล่นระดับทัวร์นาเม้นต์ กลยุทธ์ของผู้เล่นคนอื่นก็มีผลต่อการพัฒนาไพ่ในมือเราเช่นกัน

เรื่องพื้นฐานที่ไม่รู้ไม่ได้เด็ดขาดถ้าจะเล่นไพ่แบล็คแจ็ค อ่านต่อ รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

ขั้นตอนการแข่งขัน BlackJack Tournament

ในการแข่งขันรูปแบบนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำการ Buy-in หรือก็คือเอาเงินเดิมพันไปแลกชิปเพื่อเข้าร่วมรายการตามที่ผู้จัดได้กำหนดไว้ ซึ่งเงิน Buy-in จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Prize Pool ซึ่งเป็นเงินรางวัลที่จะจ่าย และอีกส่วนจะเป็นค่าดำเนินการให้กับคาสิโนที่จัดการแข่งขัน

ยกตัวอย่างเช่น Tournament กำหนดให้ Buy-in = $50+$2 กำหนดโควตาไว้แค่ 300 คนสำหรับรายการนี้ เงินรางวัลสำหรับผู้ชนะคือ ($50 x 300) = $15,000 ส่วนผู้จัดงานหรือคาสิโนจะได้รับค่าดำเนินการ ($2 x 300) = $6,000

ในเรื่องของเงินรางวัลก็ยังมีอยู่สองแบบคือกำหนดชัดเจนไปเลย กับแบบการันตีเงินรางวัลขั้นต่ำ ซึ่งผู้ชนะมีโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัลมากกว่าที่ผู้จัดการันตีเอาไว้ อย่างไรก็ตามหากมีผู้เข้าแข่งขัน แบล็คแจ็ค ไม่เต็มจำนวน ทางคาสิโนก็ต้องเป็นผู้ออกส่วนต่างที่ขาดอยู่ทั้งหมดตามเงินรางวัลที่ได้กำหนดไว้

BlackJack Tournament

การแข่งขัน BlackJack Tournament มีกี่แบบ

โดยทั่วไปแล้วการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นต์จะแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกันคือ

  1. Elimination

การแข่งขันรูปแบบนี้จะเป็นลักษณะแพ้คัดออก ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งกันเป็นรอบ ๆ ผู้ชนะในแต่ละโต๊ะจะมีสิทธิเข้าไปเล่นในรอบถัดไปด้วยชิปที่เหลืออยู่ และในรอบสุดท้ายจะเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 1-3 คน ในการแข่งขัน แบล็คแจ็ค บางรายการผู้ที่แพ้สามารถกลับเข้ามาเล่นใหม่ได้ด้วยการ Rebuy ตามกฎและช่วงเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น สำหรับกฎมาตรฐานของ Elimination มีดังนี้

  • ในหนึ่งโต๊ะจะมีผู้เล่นได้ 6 คน
  • ผู้ชนะ 2 คนในโต๊ะจะมีสิทธิเข้าไปเล่นในรอบต่อไป
  • ในแต่ละรอบจะจำกัดการเล่นไว้ที่ 8, 16, 25 และ 30 ตาเท่านั้น
  • ผู้ชนะคือผู้เล่นที่ได้รับชิปมากที่สุดภายใน 30 ตาเดิมพัน
  1. Leader Board

เป็นการแข่งขันแบบไม่มีการวัดจำนวนรอบการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถเล่นที่โต๊ะใดโต๊ะหนึ่งได้จนกว่าการแข่งขันจะสิ้นสุด เป้าหมายของการเล่นคือจะต้องสะสมชิปให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะไต่อันดับบนบอร์ดซึ่งจะเรียงลำดับจากผู้เล่นที่ได้ชิปจากการเล่นมากที่สุดไปหาน้อยสุด ซึ่งผู้เล่นจะสามารถเช็คอันดับของตัวเองได้จากบอร์ดที่ประกาศเท่านั้น

เมื่อผู้เล่นเหลือน้อยลง กรรมการจะประกาศรอบสุดท้ายของการเล่น โดยในรอบนี้ผู้เล่นที่มีชิปตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้นที่จะได้สิทธิเล่น ส่วนมากจะเป็นอันดับที่ 1-5 ของบอร์ด จากนั้นผู้เล่นที่มีชิปมากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน

  1. Mini & Major

ปกติแล้วตามบ่อนหรือ คาสิโนออนไลน์ จะมีการจัดการแข่งขัน มินิ แบล็คแจ็ค ทัวร์นาเม้นต์ เป็นประจำทุกอาทิตย์ ส่วนค่าธรรมเนียมเข้าร่วมแข่งขันหรือ Buy-in จะอยู่ประมาณ $25 ไม่เกินนี้ สำหรับเวลาที่ใช้เล่นก็ไม่เกินหนึ่งวัน การันตีเงินรางวัลไม่เกิน $2,000 โดยประมาณ

ส่วนระดับ เมเจอร์ จะใช้เวลาในการแข่งมากกว่า 1 วัน ส่วนใหญ่จะอยู่ราว ๆ 1 สัปดาห์ และส่วนมากมักจะจัดกันที่บ่อนคาสิโนเป็นหลัก มีค่า Buy-in ที่สูงกว่า Mini BlackJack Tournament แต่ก็แลกกับการการันตีเงินรางวัลที่มากถึง 6-7 หลัก นอกจากนี้ผู้เข้าแข่งขันยังจะได้รับโปรโมชั่นต่าง ๆ จากผู้จัดไม่ว่าจะเป็นที่พักฟรี ส่วนลดที่พัก บัตรกำนัล บัตรรับประทานอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย

  1. Sit & Go’s

ถือได้ว่าเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่ง่าย ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมการแข่งขันผ่านทาง คาสิโนออนไลน์ การเล่นจะเป็นแบบโต๊ะเดียวตาเดียว เกมจะเริ่มก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นเข้ามาในห้องแข่งขันครบตามจำนวนที่กำหนด

ผู้เล่นที่มีชิปเยอะที่สุดในตาจะเป็นผู้ชนะของโต๊ะ และจะได้ลุ้นรับโบนัสรวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากผู้จัด Sit & Go’s จึงเป็นเกมที่เหมาะสำหรับนักเดิมพันทุกระดับอย่างแท้จริง

ประเภทของ BlackJack Tournament

ประเภทของ BlackJack Tournament

ในการแข่งขัน BlackJack Tournament จะแบ่งตามประเภทของการแข่งขันไว้ด้วยกัน 3 ประเภทคือ

  1. Buy-in Tournament

เป็นการแข่งขันที่ผู้เล่นจะต้องแลกชิปเดิมพันตามที่ผู้จัดกำหนดไว้ มักจะพบเจอได้ในการแข่งระดับใหญ่ ๆ อาจเป็นบ่อนที่มีชื่อเสียง หรือการแช่งระดับประเทศ ระดับโลก เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่รวบรวมนักเล่น แบล็คแจ็ค ไว้มากที่สุด ข้อดีก็คือเรามีโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัลที่สูงชนิดเปลี่ยนชีวิตกันได้ และถ้าผู้จัดการันตีเงินรางวัลขั้นต่ำก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเรา ถึงอย่างนั้นก็มีข้อเสียตรงที่เราอาจเสียผลประโยชน์จากการที่ต้องขนเงินจำนวนมากไปแลกชิปเพื่อ Buy-in หรือเสียเงินค่าธรรรมเนียมในการแข่งขันเป็นจำนวนมาก

  1. BlackJack Free rolls

สำหรับใครที่ไม่พร้อมเสียเงินก้อนโตในการ Buy-in ล่ะก็ Free rolls ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าเข้าแข่งขัน หรือแลกชิปตามอัตราที่กำหนดไว้ ในการแข่ง แบล็คแจ็ค ประเภทนี้มีการแบ่งรูปแบบการแข่งขันออกเป็น 2 แบบ คือ

  • แบบเปิด คือไม่มีการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
  • แบบใช้คะแนนสะสม คือผู้เล่นจะต้องเป็นสมาชิกก่อน จากนั้นถึงทำการแข่งขันโดยใช้คะแนนสะสมภายในบัตร

อย่างไรก็ตามการแข่งขันประเภทนี้เป็นเหมือนก้าวแรกสำหรับนัก BlackJack ที่อยากลองสัมผัสบรรยากาศแบบทัวร์นาเม้นต์ หรือเป็นนักเล่นที่มือใหม่ ไม่ก็คือพวกที่ไม่พร้อมจะรับความเสี่ยงใด ๆ เลย แต่ด้วยความที่มีนักเล่นมากหน้าหลายตา เราอาจโชคร้ายไปเจอผู้เล่นที่เก่งกว่าอยู่ในโต๊ะเดียวกันก็ได้เพราะเป็นการเล่นแบบเปิด

ส่วนการใช้คะแนนสะสมมักจะเห็นได้ตาม คาสิโนออนไลน์ โดยผู้เล่นจะใช้คะแนนสะสมที่ได้มาลองเล่น แบล็คแจ็ค ทัวร์นาเม้นต์ ซึ่งในแง่ของคาสิโนก็เป็นผลดีคือผู้เล่นจำนวนมากจะช่วยกันปั่นเดิมพันเพื่อให้ได้คะแนนสะสม แล้วนำไปต่อยอดในการเล่น BlackJack Tournament ต่อไป

  1. VIP Tournament

อันนี้ก็ตามชื่อเลยครับ เพราะผู้เล่นที่จะเข้าร่วมได้ล้วนอยู่ในระดับ VIP อาจถูกเชิญจาก คาสิโนออนไลน์ ให้มาร่วมเล่น รวมไปถึงผู้เล่นที่มีคะแนนสะสมถึงระดับ VIP การแข่งขันจะวางเดิมพันกันด้วยเงินจำนวนมาก ทำให้ผู้ชนะมีโอกาสได้เงินก้อนโตกลับไป อีกทั้งรายการประเภทนี้จะมีคู่แข่งน้อย ทำให้มีโอกาสชนะเยอะ

BlackJack Tournament เล่นที่ไหนดี

หลัก ๆ สำหรับผู้ที่สนใจเล่น แบล็คแจ็ค ทัวร์นาเม้นต์ ช่องทางแรกเลยก็คือ บ่อนคาสิโน ส่วนมากจะเป็นการแข่งแบบที่ต้อง Buy-in เข้าไป ซึ่งเราสามารถศึกษาหาข้อมูลการแข่งขันได้ตามเว็บไซต์ของผู้จัด หรืออีกช่องทางหนึ่งก็คือแข่งขันผ่าน คาสิโนออนไลน์ อันนี้จะเล่นง่ายที่ไหนก็ได้ แต่จะมีการกำหนดช่วงเวลาการแข่งขันที่ชัดเจน ซึ่งสมัยนี้สามารถแข่งขันกันผ่านคอมพิวเตอร์ หรือ Application บนมือถือได้ด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุด ๆ

Hole Carding

กลยุทธ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการแข่งขัน BlackJack Tournament

ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในบ่อนคาสิโนหรือตาม คาสิโนออนไลน์ กลยุทธ์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องมีติดตัวไว้เสมอ ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีอยู่ 4 อย่างคือ

  1. รู้จักกลยุทธ์พื้นฐาน

พื้นฐานสำคัญที่นักเล่น BlackJack ต้องมีก็คือกลยุทธ์พื้นฐานที่เรียกว่า Soft Hand & Hard Hand สำหรับหลักการมีดังนี้

  • Stand ทุกครั้งที่ได้ 17 แต้มขึ้นไป
  • Hit ทุกครั้งเมื่อถือแต้มไว้ไม่เกิน 8 แต้ม
  • เมื่อมีแต้ม 12 – 16 แล้วเจ้ามือถือ 2-6 แต้มไว้ให้ Stand แต่ถ้าไม่ก็ให้ Hit
  • Double Down ทันทีที่ได้ 10 หรือ 11 แต้ม
  • จำไว้ว่าไพ่คู่ 88, 99 และ AA ต้อง Split
  • Stand เสมอถ้าเจอไพ่คู่ 1010

นอกจากนี้แล้วยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ อีกมากมายให้เราได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการนับไพ่ อ่านไพ่ หากรู้จักประยุกต์ใช้ก็จะทำให้เรามีโอกาสชนะเพิ่มขึ้น

  1. เดิมพันให้แตกต่างจากคนอื่น

ในการเล่นทัวร์นาเม้นต์ต้องจำไว้ว่าเราไม่ได้แข่งกับเจ้ามือเพียงอย่างเดียว แต่มีผู้เล่นด้วยกันเป็นคู่แข่งด้วย ดังนั้นการใช้กลยุทธ์เดิม ๆ หรือพวกที่ใคร ๆ ก็ใช้กันอาจจะไม่ได้ผลมากนัก หากบลัฟด้วยเดิมพันอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับอีกฝ่าย อย่างเช่นหากอีกฝ่ายเดิมพันสูง เราอาจแทงต่ำ แต่ถ้าเขาแทงต่ำ เราสวนด้วยเดิมพันก้อนโต ซึ่งวิธีนี้จะทำให้อีกฝ่ายคาดเดาได้ยากขึ้นว่าในมือเราถืออะไรอยู่

  1. สร้างกลยุทธ์ใหม่เสมอ

การรู้จักสังเกตท่าทีของผู้เล่นถือเป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่จะช่วยให้เราสร้างกลยุทธ์ใหม่ ๆ ออกมาสู้ได้อย่างเหมาะสม เป้าหมายของทัวร์นาเม้นต์คือการทำให้ตัวเองมีชิปกองโตที่สุด ทันทีที่เราได้ Hard Hand มาอาจเล่นแบบ Conservation คือแบบค่อยเป็นค่อยไปก่อน เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ แล้วค่อยเล่นใหญ่ใส่หนักกันแบบ Aggressive เพื่อให้อีกฝ่ายเต้นตามจังหวะของเรา เมื่อใดก็ตามที่คิดว่าได้แต้มดีที่สุด และสามารถล้มเจ้ามือได้ ก็เพิ่มชิปลงไป แต่ก็อย่าลืมใช้กลยุทธ์อื่นควบคู่ไปด้วยจะดีมาก ๆ

  1. รู้จักใช้ตำแหน่งในโต๊ะ

ใครที่ศึกษาโป๊กเกอร์มาจะรู้ว่าตำแหน่งนั้นสำคัญสุด ๆ และใน แบล็คแจ็ค ก็เช่นกัน เพียงแต่หลักการใช้งานตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปมาก ถึงอย่างนั้นการนั่งในตำแหน่งแรกหรือที่เรียกว่า The Button ก็ยังคงเป็นตำแหน่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะเราต้องเล่นเป็นคนแรกโดยที่ไม่มีข้อมูลของคนอื่นเลย ขณะเดียวกันตำแหน่งสุดท้ายจะทำให้เรามองเห็นหมดเลยว่าใครวางชิปมากน้อยแค่ไหน จากนั้นค่อยเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น

หากเราได้อยู่ตำแหน่งแรก ให้วางเดิมพันด้วยชิปจำนวนมากไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้คนอื่นตามมา เพราะคิดว่าเรามีไพ่ดีในมือ แต่ถ้าเรากำลังตามหลัง The Leader ก็ควรจะวางเดิมพันตามไปเลยด้วยชิปที่เท่ากัน หรือน้อยกว่าเล็กน้อย แต่มีเงื่อนไขว่าเราจะต้องให้ผ่านช่วง The Button ก่อนถึงจะตามได้

BlackJack

  1. คุมเดิมพันในแต่ละรอบให้อยู่

ไม่ว่าจะเป็น Eliminate หรือ Leader Board การตรวจสอบชิปที่วางแต่ละตา เทียบกับผู้แข่งขันที่นำอยู่คือสิ่งที่ต้องทำ เพื่อหาจังหวะวางชิปที่เหมาะสม ไม่ว่าจะวางน้อยหรือวางมาก เพราะในการวางแต่ละครั้งจะส่งผลถึงอันดับของเราในทัวร์นาเม้นต์ด้วย

สมมติว่าเราเล่น Eliminate อยู่เราสามารถถูกตัดออกรายการทุกเมื่อหากสะสมชิปไม่ถึง ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครบ้างที่จะได้เข้ารอบต่อไป มีชิปเท่าไหร่ และในรอบนี้เราจะต้องเล่นทั้งหมด 8 ตา ซึ่งมาถึงตาสุดท้ายแล้ว ในตอนนี้เราขาดชิปอีกแค่ 1,500 เพื่อที่จะได้ไปต่อ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือเพิ่มเงินเดิมพันให้มากกว่า 1,500 เพื่อที่จะเอาชนะเกมในรอบตัดสินให้ได้

จำไว้ว่ากลยุทธ์ที่ดี คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้เราเข้าใกล้ The Leader ได้มากที่สุด และไม่เสี่ยงที่จะทำให้ชิปหมดเร็วเกินไปด้วย

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ในการแยกไพ่ BlackJack

6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ใน การแยกไพ่ BlackJack

( 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ใน การแยกไพ่ BlackJack )พูดถึงเรื่องแยกไพ่ แบล็คแจ็ค เชื่อว่าหลายคนคงจำได้ดีว่าเราจะต้องแยกไพ่ทุกครั้งเมื่อได้ไพ่คู่ AA หรือไพ่คู่ 88 เสมอ แม้ว่าเดี๋ยวนี้ตาม คาสิโนออนไลน์ ต่าง ๆ จะมีการพัฒนากฎกติกาการเล่นใหม่ ๆ ขึ้นมาให้สามารถแยกไพ่ได้ทุกคู่ก็ตาม แต่เราก็ยังคงคุ้นเคยกับการแยกไพ่แบบเดิม ๆ จนทำให้แยกไพ่ผิด ๆ ถูก ๆ กันไป จากที่ควรชนะก็กลายเป็นแพ้ ในบทความนี้เราจะได้รู้กันครับว่ามันมี 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ในการแยกไพ่ BlackJack ยังไงบ้าง เพื่อให้เรามีไพ่ที่ดีที่สุดอยู่ในมือ

คุณอาจสนใจความเป็นมาของเกมไพ่แบล็คแจ็ค ต้องอ่านบทความนี้  ย้อนรอย BlackJack จากเกมไพ่สู่ คาสิโนออนไลน์

การแยกไพ่ BlackJack

การแยกไพ่คืออะไร

ในการแยกไพ่ของ แบล็คแจ็ค จะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้รับไพ่แต้มเดียวกัน 2 ใบ หรือที่เรียกว่าไพ่คู่ โดยจะต้องแยกไพ่ออกเป็น 2 ข้าง เมื่อแยกเสร็จแล้วเราก็ต้องวางเดิมพันเข้าไปในขาที่แยกออกมา จากนั้นจึงทำการ Hit เพื่อเรียกไพ่เพิ่ม หากติดคู่อีกก็สามารถแยกได้อีก (สำหรับ คาสิโนออนไลน์ บางแห่ง) อย่างไรก็ตามในกฎพื้นฐานของการแยกก็คือ หากได้ไพ่คู่ AA หลังจากแยกแล้วจะจั่วไพ่เพิ่มได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด

เล่นเป็นทั้งไพ่แบล็คแจ็คและไพ่โป๊กเกอร์แต่ไม่รู้ต่างกันตรงไหน คลิกอ่าน 4 ความต่างที่ต้องรู้ก่อนเล่นระหว่าง BlackJack กับ Poker

6 สิ่งควรทำในการแยกไพ่ BlackJack

ถ้าหากว่า คาสิโนออนไลน์ ที่เราเล่นเป็นแบบที่อนุญาตให้แยกไพ่ได้ทุกคู่แล้วล่ะก็ นี่คือ 6 สิ่งที่ควรทำเมื่อได้ไพ่คู่ครับ

  1. แยกไพ่คู่ AA ทุกครั้ง

ขอนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้กันอยู่แล้ว แต่ในบางเกมที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะไม่แยกก็ได้ การตัดสินใจไม่แยกก็เท่ากับว่าตัดสินใจไม่ติด แบล็คแจ็ค ดังนั้นการแยกจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้เรา เพียงแต่ต้องเพิ่มเดิมพันมาอีกหนึ่งขา จากนั้นก็เล่นกันไปตามปกติ

ลองคิดดูว่าการเล่นด้วยไพ่คู่ AA เท่ากับว่าเรามีแต้มเริ่มต้นแค่ 12 จึงมีแค่ 9 เท่านั้นที่จะทำให้เราติด 21 แต้มได้ แต่ถ้าเราแยกออกเป็นสองขา แต่ละขาจะมีลุ้นได้ 21 แต้มจากการติดไพ่ 10, J, Q หรือ K คือเพิ่มโอกาสชนะด้วย 21 แต้มได้ถึง 4 รูปแบบนั่นเอง

  1. แยกไพ่คู่ 88 เสมอ

นอกจากไพ่คู่ AA อีกคู่ที่ควรแยกก็คือไพ่คู่ 88 ทันทีที่เราได้คู่นี้มาถือว่าเป็นมือที่เล่นยากมาก ๆ เพราะเริ่มต้นที่ 16 แต้ม ถือว่าเป็นมืออ่อน การ Hit จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำแต้ม Over 21 แต่ถ้า Stand ก็ยากที่จะชนะเช่นกัน วิธีลดความเสี่ยงไปพร้อมกับเพิ่มโอกาสชนะจึงมีเพียงแค่การแยกไพ่เท่านั้น

แยกไพ่แบล็คแจ๊ค

  1. หากแยกแล้วยังได้ไพ่คู่ AA หรือ 88 อีก ให้แยกอีกครั้ง

แม้ว่าจะมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้ในการที่เราจะติดไพ่คู่แบบติดซ้ำติดซ้อน ดังนั้นหาก คาสิโนออนไลน์ เขายินดีให้เราแยกไพ่ได้อีก ก็แยกเลย ถึงจะต้องวางเดิมพันเพิ่มขึ้น แต่เราก็มีโอกาสชนะเพิ่มขึ้นด้วย

  1. แยกไพ่คู่ 22, 33, 77 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ 7 หรือต่ำกว่า

นอกจากจะดูแต่ไพ่ฝั่งเราแล้ว ไพ่ของเจ้ามือก็เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ตัดสินใจได้เช่นกัน โดยเฉพาะเวลาที่ไพ่ใบแรกของอีกฝ่ายมีแต้มไม่เกิน 7 แต้ม แล้วเราได้ไพ่คู่ 22, 33 หรือ 77 เช่นนี้ก็ควรที่จะแยกออกไปก่อน

แต่ถ้าเราถือไพ่คู่เหล่านี้ไว้ แล้วเจ้ามือมีไพ่มากกว่า 7 แต้ม แทนที่จะแยก ก็ให้เปลี่ยนเป็น Hit แทน เพราะโอกาสชนะจะมีมากกว่าการแยกไพ่

  1. แยกไพ่คู่ 66 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ตั้งแต่ 2 – 6

ทันทีที่เราได้ไพ่คู่ 66 สิ่งที่ต้องดูก็คือฝั่งเจ้ามือถือแต้มระหว่าง 2 – 6 หรือไม่ หากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ให้แยกไพ่ทันที แต่ถ้าเจ้ามือมีแต้มที่ดีกว่าให้เสี่ยง Hit ไป เพราะมีแค่ไพ่ 10 แต้มเท่านั้นที่จะทำให้เราแพ้ได้ในการจั่วแค่ครั้งเดียว

  1. แยกไพ่คู่ 99 เมื่อเจ้ามือมี 2, 3, 4, 5, 6, 8 หรือ 9

การตัดสินใจ Hit ด้วยไพ่คู่ 99 ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย เพราะมีเพียงแค่ไพ่ 2 กับ 3 เท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดได้ ดังนั้นการแยกไพ่คู่ 99 ออกจากกัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการสู้กับไพ่เหล่านี้ แต่ถ้าเจ้ามือมีไพ่ 7 หรือ 10 แต้ม ให้ Stand แทน เพราะไพ่ 18 แต้มในมือถือว่าแข็งพอที่จะเอาชนะได้

ไพ่แบล็คแจ็คสิ่งที่ควรทำและห้ามทำ

3 สิ่งต้องห้าม สำหรับการแยกไพ่ แบล็คแจ็ค

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 10

ใครที่อยากฆ่าตัวตายก็แยกไพ่คู่ 10 ได้เลยครับ ตรงนี้เห็นชัดกันแล้วว่าเรามี 20 แต้มในมือ สิ่งเดียวที่จะทำให้เราแพ้ได้ก็คือ แบล็คแจ็ค ขอเจ้ามือ กับ 21 แต้ม เท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายมืออ่อนมาก ๆ แล้วเราก็อยากจะเพิ่มกำไร ก็สามารถแยกได้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะเอามืออ่อนมาตบไพ่เราได้สำเร็จ

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 44

ไพ่คู่นี้ถือว่าเป็นมือที่อ่อนมากอยู่แล้ว การ Hit จำเป็นต้องติดไพ่ 10 แต้มเป็นอย่างน้อยถึงจะทำให้ไพ่แข็ง การแยกไพ่จะทำให้ไพ่อ่อนลงไปอีก และสถานการณ์จะเลวร้ายถ้า Hit แล้วติดไพ่ 2 หรือ 3 กลับมา จะเท่ากับว่าเราเสียเงินไปสองเท่าอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 55

สภาพของไพ่คู่ 55 บอกเลยว่าไม่ต่างจากคู่ 44 แทนที่จะแยก แนะนำว่าให้ Hit สู้ยังจะคุ้มกว่า เพราะตอนนี้เรามีอยู่ในมือแล้ว 10 แต้ม ขอแค่ Hit ติดไพ่ 7-10 แต้มอีกสักใบก็พอที่จะ Stand ได้แล้ว

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

( จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack )ถ้าพูดถึงกลยุทธ์หรือสูตร แบล็คแจ็ค อย่างแรกที่คนส่วนใหญ่จะคิดถึงเลยก็คือ การนับไพ่ คงต้องยอมรับว่าเทคนิคนับไพ่มันแทบจะเป็นตำนานแห่งวงการไพ่ 21 ไปเสียแล้ว เมื่อมันโดนขยี้ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Rain Man ที่การันตีด้วยรางวัลออสการ์ ทำให้แทบทุกคาสิโนรวมถึง คาสิโนออนไลน์ ต้องคอยจับตาไว้ว่าจะมีนักเล่นคนไหนพยายามใช้เทคนิคนี้บ้าง ราวกับว่าคนที่ใช้สูตรนี้ได้แทบจะเป็นพระเจ้ากันเลยทีเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ว่าแต่ทำไมหลายคนถึงพยายามใช้ ทำไมหลายบ่อนถึงไม่ถูกใจเทคนิคนี้ เราไปดูกันดีกว่าครับ

อีกหนึ่งสูตรเดินเงินมาแรงสำหรับเกมไพ่แบล็คแจ็ค อ่านต่อ The Knock Out สูตร BlackJack ล้มเจ้าที่ไม่ควรพลาด

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

การนับไพ่คืออะไร ทำกันอย่างไร

การนับไพ่ BlackJack ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักพนันนิยมใช้กัน เพื่อใช้สร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง ด้วยการคาดเดาตามความน่าจะเป็นว่า เมื่อไพ่ของเจ้ามือเป็นแบบนี้ และเราถือไพ่คู่นี้อยู่ โอกาสที่ไพ่อีกใบของเจ้ามือจะเป็นอะไร สำหรับผู้เล่นที่ใช้เทคนิคนี้จนชำนาญอาจสามารถมองไปถึงไพ่ที่เหลืออยู่ในสำรับอีกว่าน่าจะมีอะไรอยู่ในกองนั้นบ้าง จนบางคนอาจกดความได้เปรียบของ คาสิโนออนไลน์ ไปอยู่ในระดับที่เกือบเป็นศูนย์โดยสมบูรณ์ก็มีมาแล้ว

สำหรับการนับไพ่ แบล็คแจ็ค จะมีอยู่ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เปรียบมากยิ่งขึ้นคือ

  • กำหนดค่าตัวเลขให้กับไพ่ทุกใบ
  • นับไพ่ที่ถูกแจกออกมาในใจด้วยค่าเลขที่กำหนดไว้
  • เอาค่าไพ่ที่นับได้มาคำนวณหาไพ่ในสำรับ หรือที่เรียกกันว่า “การนับที่แท้จริง”
  • นำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับเดิมพันเมื่อจำนวนที่แท้จริงเพิ่มขึ้น

ปกติแล้วการนับไพ่จะใช้กลยุทธ์ สูง-ต่ำ (Hi-Lo) โดยการแบ่งไพ่ออกเป็น 3 กลุ่ม ให้ไพ่แต้มต่ำ (2, 3, 4, 5) มีค่าเป็น +1 ไพ่แต้มกลาง (6, 7, 8, 9) มีค่าเป็น 0 และไพ่แต้มสูง (10, J, Q, K) มีค่าเป็น -1 ทุกครั้งที่เรามองเห็นหน้าไพ่ทั้งของฝั่งผู้เล่นและ ฝั่งเจ้ามือ ให้นับค่านี้ไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้เรามองเห็นโอกาสที่อีกฝ่ายจะได้ 21 แต้ม มากน้อยแค่ไหน หากนับแล้วได้ค่าเป็นบวก แสดงว่ามีโอกาสดีที่จะเพิ่มเดิมพัน

ใครที่กำลังจะเปลี่ยนไปเล่นแบล็คแจ็คแบบทัวร์นาเม้นท์แนะนำให้อ่านต่อ BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน

ข้อดีของการนับไพ่ BlackJack

แม้ว่าในการเล่นตาม คาสิโนออนไลน์ จะมีการใช้ไพ่จำนวนมากถึง 6-8 สำรับในการเล่น แต่โดยรวมแล้วการนับไพ่ก็ยังคงมีข้อดีหรือประโยชน์ต่อเราดังนี้

  • ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนจากเกมที่เน้นดวง มาเป็นการใช้ทักษะการเล่นตามกลยุทธ์ที่เราวางไว้ได้ และกลยุทธ์นี้ก็สามารถใช้ซ้ำได้ไม่มีล้าสมัย
  • หากสามารถทำได้ชำนาญ จะช่วยลดอัตราความได้เปรียบของ คาสิโนออนไลน์ ได้เกือบถึง 0 อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาสามัญก็จริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าดีสำหรับเรามาก ๆ
  • เป็นกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง และสามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นได้ดีอีกด้วย

5 วิธี ทำกำไร ไม่ง้อ แบล็คแจ็ค

แล้วการนับไพ่ไม่ผิดกฎหมายหรือ

ถ้าเรามองในแง่ของกฎหมายเพียงอย่างเดียว ก็ขึ้นอยู่กับว่าบ่อนหรือ คาสิโนออนไลน์ เหล่านั้นมีกฎหมายคุ้มครองไปถึงการใช้วิธีนับไพ่หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องนี้ เพราะมันถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเล่นที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามในวงการคาสิโนก็ไม่มีที่ไหนให้การยอมรับในเรื่องนี้ พวกเขามองว่ามันคือการพยายามแฮ็กข้อมูลบางอย่าง เหมือนกับว่าเราเป็นฝ่ายโกงหรือทำผิดกติกา สุดท้ายก็ต้องโดนแบนไม่ให้เล่น BlackJack ตลอดไปเหมือนกับพระเอกคนดังที่ใช้เทคนิคนับไพ่จนคาสิโนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับเขาแทน

เมื่อใช้ได้ทำไมถึงควรเลี่ยงการนับไพ่

เห็นความพิเศษขั้นสุดของสูตร BlackJack นับไพ่กันไป หลายคนคงร้อนวิชา แต่อยากจะเตือนก่อนว่าของแบบนี้เลี่ยงได้ควรเลี่ยงจะดีกว่าครับด้วยเหตุผลดังนี้

  • หลังจากที่ผ่านช่วงขั้นต้นไปได้ การนับไพ่จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
  • การนับไพ่ไม่ใช่เทคนิคที่จะใช้ได้ในทุกสถานการณ์ มีหลายครั้งที่มันมักจะไม่ทำงานตามที่คาดการณ์ไว้
  • ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนับไพ่สำเร็จได้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดันของคาสิโน แม้แต่ คาสิโนออนไลน์ ก็ยังมีวิธีที่จะลดอัตราความสำเร็จในการนับไพ่ของเราเสมอ
  • เมื่อเทียบกับจำนวนครั้งที่ทดลองนับไพ่แล้ว กำไรที่ได้ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อคิดเป็นกำไรต่อรอบการเล่น
  • หากถูกคาสิโนจับได้อย่างดีก็คงให้เปลี่ยนโต๊ะ หรือหนักสุดก็คือขอให้เลิกเล่น แบล็คแจ็ค ตลอดไปแค่นั้นเอง

ถ้าไม่นับไพ่แล้ว จะเอาชนะ BlackJack ได้อย่างไร

อุตส่าห์ฝากความหวังไว้กับการนับไพ่มาตั้งนาน สุดท้ายเหมือนกับโดนทุบความฝันทิ้งไป จริงอยู่ว่าเทคนิคนี้มันทรงพลัง แต่พลังที่มากมันก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามผมอยากจะบอกว่าการนับไพ่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะเอาชนะ คาสิโนออนไลน์ ได้ มันเป็นเพียงแค่หนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้ในการเอาชนะเจ้ามือต่างหาก

นั่นหมายความว่า ต่อให้ไม่สามารถนับไพ่ได้ เราก็ยังมีกลยุทธ์อีกมากมายที่จะเอาชนะไพ่ แบล็คแจ็ค และในที่นี้ผมมี 2 ทางเลือกมาให้ลองนั่นก็คือ

  • Hold Carding มันคือเทคนิคการชี้ชัดว่า Hole Card ของอีกฝ่ายคืออะไร จากนั้นก็ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับไพ่ใบ นั้น จริงอยู่ว่าเราไม่สามารถมองเห็นได้ว่าไพ่ใบนี้คืออะไร แต่เราสามารถใช้การคาดคะเนร่วมกับการนับไพ่หรืออ่านไพ่ก็ได้
  • Front Loading เมื่อ Hole Card คือไพ่คว่ำของเจ้ามือ Front Loading ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้ามือทำการแจก Hole Card โดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่ดึงไพ่ออกจากสำรับ โดยเราต้องพยายามระบุให้ได้ว่าไพ่ใบต่อไปจะเป็นอะไรแล้วค่อยปรับกลยุทธ์ให้เข้ากัน

รวมศัพท์เกมไพ่BlackJack

สรุปก็คือการนับไพ่ แบล็คแจ็ค นั้นเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ระดับความยากมันจะแปรผันตามจำนวนสำรับไพ่ที่ใช้ในการเล่น ยิ่งมีไพ่มากยิ่งทำให้ยากที่จะควบคุมมันได้ กว่าจะไปถึงจุดที่เรียกว่าสำเร็จ เมื่อหันไปมองบัญชีที่ลงไว้จะรู้ว่ามันแทบจะเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงควรที่จะศึกษากลยุทธ์อื่น ๆ เผื่อไว้บ้าง เพราะในการเล่นจริงเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างใจนึกแน่นอน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

5 เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการนับไพ่ BlackJack

5 เรื่องจริงเกี่ยวกับ การนับไพ่ BlackJack

( 5 เรื่องจริงเกี่ยวกับ การนับไพ่ BlackJack ) เมื่อเทียบกับโป๊กเกอร์แล้ว จริงอยู่ครับที่ แบล็คแจ็ค เป็นเกมพนันที่เล่นง่ายมาก ๆ กลยุทธ์ต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากเกินที่จะเข้าใจ ใช้ได้ทั้งใน คาสิโนออนไลน์ และบ่อนคาสิโน แต่มันกลับเป็นเกมไพ่ที่มีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจเยอะพอสมควร (งงไหมล่ะ) อย่างเช่นการนับไพ่ที่ถือว่าเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่มักจะใช้ในการเล่น เราอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร มันก็แค่เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ใคร ๆ ก็ใช้กันใช่ไหมล่ะครับ พอเอาเข้าจริง ๆ มันมี 5 เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการนับไพ่ BlackJack ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงกัน

อยากรู้ไหมว่ามันมีความลับอะไรเกี่ยวกับไพ่แบล็คแจ็คที่ไม่ค่อยอยากพูดถึง ถ้าอยากรูก็คลิกอ่าน 5 ความลับที่นัก BlackJack ไม่ค่อยพูดกัน

เล่น BlackJack อย่างไรให้ชนะ

ทำไมต้องนับไพ่ BlackJack ด้วย

เชื่อหรือไม่ครับว่าในการค้นหาข้อมูลบน Google แค่คำว่า “การนับไพ่ ถูกกฎหมายหรือไม่” มีการค้นหากว่า 28 ล้านครั้งไปแล้ว นั่นหมายความว่าเทคนิคการนับไพ่มันไม่ได้มีแค่เรื่องของคณิตศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น แต่อาจมีความเกี่ยวพันกันในเรื่องของกฎหมายอีกด้วย อย่าลืมว่า คาสิโนออนไลน์ ที่ตั้งในประเทศที่มีการออกไปอนุญาตเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ดังนั้นเทคนิคต่าง ๆ ในการเล่น แบล็คแจ็ค อาจผิดกฎหมายเพราะเข้าข่ายการโกงคาสิโนนั่นเอง

ถึงรู้ว่าผิดแต่ชีวิตมันชอบความเสี่ยง ไหนจะเจอพวกหนังที่เกี่ยวข้องกับ แบล็คแจ็ค และคาสิโนเข้าไป บวกกับข่าวดาราระดับฮอลลีวู้ดต้องโดนหิ้วปีกออกจากบ่อน พร้อมกับแบนเขาจากเกม BlackJack เพียงเพราะเขาใช้เทคนิคการนับไพ่จนทำให้คาสิโนเสียเปรียบขั้นสุด สิ่งเหล่านี้ยิ่งไปกระตุ้นให้หลายคนอยากลองว่าเทคนิคการนับไพ่มันใช้ได้จริงหรือ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจนับไพ่ ผมก็อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 5 ข้อเท็จจริงเหล่านี้เสียก่อน

  1. นับไพ่ได้ไม่ใช่ว่าจะชนะเสมอ

มันมีความเชื่อหนึ่งที่แทบจะฝังหัวนักเล่น แบล็คแจ็ค มือใหม่นั่นก็คือใครที่นับไพ่ได้แม่น โอกาสชนะแทบจะเป็น 100% ทั้งนี้มันก็มาจากทั้งหนังทั้งข่าวคอยปั่นหัวอย่างที่ผมบอกไปในช่วงแรก จริงอยู่ว่าเทคนิคนี้มันง่ายมากที่จะทำได้ แต่เงื่อนไขของมันคือต้องใช้กับไพ่จำนวนน้อย ๆ แค่ 1-2 สำรับ เท่านั้น มันเลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมใน คาสิโนออนไลน์ ถึงมีการใช้ไพ่มากถึง 6-8 สำรับ นั่นก็เพื่อลดโอกาสที่เราจะนับไพ่ถูกนั่นเอง

อีกอย่างทุกเกมพนันต่างก็มีค่า House Edge อยู่ แม้เราจะนับไพ่ได้แม่น แต่ก็ไม่ได้หมายถึงมีความได้เปรียบเหนือเจ้ามือ เพียงแค่ลดความได้เปรียบของอีกฝ่ายลงและเพิ่มโอกาสชนะให้กับเราเท่านั้น ในระยะสั้น ๆ การนับไพ่ยังคงช่วยได้บ้าง ไม่ถึงกับพลิกสถานการณ์ ส่วนระยะยาวยังไงเราก็เสียให้เจ้ามืออยู่ดี

ไพ่ BlackJack

  1. เล่นเก่งแค่ไหนก็ใช่ว่าจะนับไพ่ได้กันทุกคน

อุปสรรคหนึ่งในการเล่น คาสิโนออนไลน์ ก็คือเราสามารถถูกรบกวนได้ตลอดเวลาขณะที่เรากำลังตั้งอกตั้งใจนับไพ่อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าจะเสียงโทรศัพท์ เสียงคนในบ้าน หรือแม้แต่เสียงแมวร้องหมาเห่าก็อาจทำให้เรานับผิดหรือคลาดเคลื่อนได้ในระหว่างที่กำลังใช้สมาธิมองหาว่าไพ่ที่เหลือมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้อัตราการนับไพ่สำเร็จของเราลดลง

สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการนับไพ่ก็คือการที่เรารู้ว่าจังหวะไหนควร Hit จังหวะไหนต้อง Stand รวมถึงการวางเดิมพันใหญ่และเล็ก การคาดเดามือของอีกฝ่ายไว้ล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นการนับไพ่ก็เสียเปล่าหากยังไม่สามารถปรับขนาดเดิมพันให้เหมาะสมได้

  1. ไม่ต้องอัจฉริยะก็นับไพ่ได้ ขอให้มีเทคนิคการจำก็พอ

หลายคนอาจคิดว่าการนับไพ่ แบล็คแจ็ค มันต้องมีความจำระดับไหน อัจฉริยะกันไปเลยหรือเปล่าถึงจะจำไพ่หลายสำรับแบบนั้นได้ ความจริงก็คือต่อให้เป็นคนธรรมดาสมองสามัญก็สามารถนับไพ่ได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องออกแบบเทคนิคการจำเฉพาะตัวขึ้นมา เพราะข้อมูลชุดเดียวกันแต่ละคนก็มีวิธีการจำที่ไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นวิธีที่ลอกเลียนแบบกันได้ยาก แต่อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของการนับไพ่คือความน่าจะเป็น การคาดเดาไพ่ที่จะออกใบต่อไปคือคำตอบที่เรากำลังค้นหาอยู่จากการนับไพ่

วิธีที่ใช้กันบ่อยที่สุดไม่ว่าจะเป็นในบ่อนหรือ คาสิโนออนไลน์ ก็คือเทคนิคไพ่สูง-ต่ำ (Hi-Lo) เพื่อให้การนับไพ่ทำได้ง่ายขึ้น โดยให้ไพ่ที่มีแต้มไม่เกิน 6 เป็นไพ่ต่ำมีค่าเป็น +1 และไพ่ที่มีแต้ม 10 ขึ้นไปเป็นไพ่สูงมีค่าเป็น -1 ส่วนที่เหลือคือไพ่กลางให้ค่าเท่ากับ 0 คือไม่ต้องไปสนใจนั่นเอง เวลานับแทนที่จะมองเป็นหน้าไพ่ เราก็จะคิดเป็นค่าไพ่แทนเช่น K, 7, 2, 10 ก็จะได้ -1, 0, +1, -1 เป็นต้น จากตรงนี้ก็สรุปได้เลยว่า ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็นับไพ่ได้ครับ

  1. พฤติกรรมบางอย่างมันฟ้องว่ากำลังมีการนับไพ่

ในการเล่น BlackJack หากใช้ไพ่สำรับเดียวไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เจ้ามือจะอ่านออกว่าเรากำลังนับไพ่อยู่ ต่อให้เป็นการเล่นผ่าน คาสิโนออนไลน์ มันก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าใครกำลังนับไพ่เช่นกัน เพราะความโลภความอยากเอาชนะมันจะออกแบบพฤติกรรมมาคล้าย ๆ กันก็ เช่น การ Hit หนักทั้งที่มี 17 แต้ม การ Split และ Double-Down ในจังหวะที่ผิดปกติ การวางเดิมพันประกันในเวลาที่ไม่เหมาะสม แม้แต่การ Stand อย่างไร้แบบแผน ทั้งหมดนี้มันคาดเดาได้ว่ากำลังมีการนับไพ่อยู่

ด้วยเหตุนี้นักพนันมืออาชีพจึงมักจะเลี่ยงการเล่นไพ่ที่ใช้สำรับน้อย ๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ว่านับไพ่ รวมถึงการต้องไปเจอกับเพดานสูงสุดของการเดิมพันที่ค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้พวกเขาจะมีวิธีการเล่นที่หลากหลาย นับบ้างไม่นับบ้าง และอยู่ให้ห่างกลยุทธ์พื้นฐานไว้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ย้อนรอย แบล็คแจ็ค

  1. การนับไพ่สามารถพาไปนอนคุกได้

แม้ในบ้างประเทศการพนันจะผิดกฎหมาย แต่หลายประเทศที่อนุญาตให้มีการตั้งคาสิโนก็ย่อมมีกฎหมายออกมาให้ความคุ้มครอง ดังนั้นการนับไพ่จึงถือเป็นอีกพฤติกรรมหนึ่งที่เข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมาย และการเดินเข้าไปนอนในคุกก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น ส่วนในคาสิโนบางแห่งที่เป็นธุรกิจใต้ดินเราอาจเคยได้ยินมาว่าอย่างดีก็แค่โดนแบน แต่อย่างหนักนี่ก็มีเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันบ้าง ซึ่งฟังแล้วมันก็ไม่คุ้มเลย

ต่อให้ทุกวันนี้เป็น คาสิโนออนไลน์ เล่นที่ไหนก็ได้ เหมือนจะปลอดภัยก็จริง ถึงจะไม่มีการจับกุมข้ามชาติหรือส่งคนมาถึงบ้านเพียงเพราะนับไพ่ เราก็สามารถถูกแบนได้เหมือนกันเหมือนกับพวกที่ใช้โปรแกรมช่วยเล่น เพราะ คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีระบบตรวจจับการโกงที่คอยทำงานอยู่หลังบ้านอยู่แล้ว และก็มีความเป็นไปได้ว่าหลังจากที่เราถูกแบนจากที่หนึ่ง เราอาจไม่สามารถไปเล่นกับเจ้าไหนได้อีกเลย เพราะเขาอาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา

มาถึงตรงนี้แล้ว ผมก็อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิดหรอกครับในการที่เราจะใช้เทคนิคการนับไพ่สำหรับการเล่น BlackJack เพียงแต่เราต้องใช้ให้ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา ลองหาเทคนิคอื่น ๆ มาใช้บ้าง หลังจากนั้นเราจะมีเทคนิคการเล่นเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสชนะในรูปแบบของตัวเอง ขนาดกฎเดิมพันยังมีการพัฒนาตลอดเวลา แล้วทำไมเราจะมาเสียเวลากับวิธีการเล่นแบบเดิม ๆ อีก

ถ้าคุณสนใจอยากหาเคล็ดลับวิธีเล่นไพ่แบล็คแจ็คให้ชนะ ต้องอ่านบทความนี้  เล่น BlackJack อย่างไรให้ชนะ

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

BlackJack ประกันภัย ประกันอย่างไรถึงจะคุ้ม

BlackJack ประกันภัย ประกันอย่างไรถึงจะคุ้ม

( BlackJack ประกันภัย ประกันอย่างไรถึงจะคุ้ม )“วางเดิมพัน รอจั่ว ลุ้นติดแบล็คแจ็ค” 3 สเต็ปง่าย ๆ ในการเล่นไพ่ยอดนิยมใน คาสิโนออนไลน์ จนถึงขนาดหนังยังเอาไปเป็นพล็อตมีรถขายรถ มีบ้านขายบ้าน ในชีวิตจริงมันก็มีคนที่ติดการพนันถึงขั้นนั้นเหมือนกัน แต่มันก็มีกลยุทธ์ที่จะช่วยให้เราไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัวอยู่เหมือนกัน และหนึ่งในนั้นก็คือการประกันภัยหรือประกันเดิมพัน ไปดูกันดีกว่าครับว่ามันคืออะไร ต้องทำอย่างไร ถึงจะไม่เสียเงินแบบไร้ประโยชน์

คุณที่กำลังมองหาสูตรเด็ด สูตรดังไว้เล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คแบบชิลๆ อ่านต่อ สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า

BlackJack ประกันภัย

ประกันเดิมพัน คืออะไร

ขึ้นชื่อว่าประกันก็คือการที่เราต้องวางเงินจำนวนหนึ่งเพื่อทำประกันภัยไว้เผื่อเวลาเกิดโชคร้ายขึ้นกับเรา ในการเล่นพนันก็เช่นกัน หลายคนอาจคุ้นเคยกับการประกันภัยในบาคาร่า ส่วน BlackJack ก็ไม่ต่างกัน ขั้นตอนการทำประกันจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้ามือเปิดได้ไพ่ A ในใบแรก ตอนนั้นจะมีการเสนอให้ผู้เล่นว่าต้องการทำประกันเดิมพันหรือไม่ หากต้องการก็ให้วางเงินประกันเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเดิมพันที่วางไว้ในรอบนั้น ซึ่งความคุ้มครองจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบที่สองแล้วได้ไพ่ 10 แต้ม ทำให้เกิดการติด แบล็คแจ็ค เท่านั้น

แต่ก่อนที่เจ้ามือจะเปิดไพ่ทั้งหมดเขาจะไม่ได้ถามแค่ต้องการวางประกันเดิมพันหรือไม่ แต่จะถามด้วยว่าต้องการเล่นเก็บก่อน หรือไม่ หลังจากที่เราวางเงินประกันรูปแบบการเล่นจะเป็น 2 : 1 จากเดิมคือ 3 : 2

สิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันก็คือคิดว่าประกันเดิมพันกับเล่นเก็บก่อนคืออันเดียวกัน ความจริงแล้วการเก็บก่อนคือสิ่งที่เจ้ามือเสนอให้ผู้เล่นที่ติดแบล็คแจ็ค ขณะที่ประกันเดิมพันเสนอให้ทุกคนในวงไพ่ การเก็บก่อนจะเป็นการรับประกันว่าเราจะได้อัตราจ่าย 1 : 1 คือเป็นการประกันเพื่อจะเก็บเงินเดิมพันไว้ แต่เราจะไม่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว

ส่วนการประกันเดิมพันจะให้ผลลัพธ์อยู่ 2 แบบ คือ หากเจ้ามือติด BlackJack เราจะไม่เสียเดิมพันที่วางไว้และมีโอกาสชนะเดิมพันข้างอีกด้วย แต่ถ้าเจ้ามือจั่วได้ไพ่อื่นที่ไม่ใช่ 10 แต้ม เราจะเสียเดิมพันข้าง แต่ยังสามารถเล่นไพ่ต่อไปได้

ใครที่กำลังจะผันตัวไปเล่นไพ่แบล็คแจ็คแบบทัวร์นาเม้นท์ ต้องอ่าน BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน

จำเป็นต้องทำประกัน BlackJack หรือไม่

ในการเล่นบน คาสิโนออนไลน์ ประกันเดิมพันเราจะทำหรือไม่ก็ได้ เพราะไม่ได้บังคับเหมือนกับการแยกไพ่ตอนที่ได้ไพ่คู่ AA หรือ 88

ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรลืมว่าจำนวนไพ่ที่ใช้เล่นมันมีตั้งแต่ 6 – 8 สำรับ เท่ากับว่าเราต้องเล่น แบล็คแจ็ค ด้วยไพ่ 312 – 416 ใบ จากเดิมที่ใช้แค่ 52 ใบ และในแต่ละรอบมีไพ่ 10 แต้มมากถึง 120-160 ใบ แทนที่จะมี 16 ใบ เท่ากับว่าหากเจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกได้ไพ่ A มีโอกาสมากถึง 38.46% ที่จะได้ 10 แต้ม แต่ถ้าเป็นการเล่นด้วยไพ่ 1 สำรับ เจ้ามือจะมีโอกาสแค่ 30.77% เท่านั้นที่จะติด BlackJack

จะเห็นได้ว่าการทำประกันเดิมพันถึงจะไม่ช่วยให้มีโอกาสชนะ แต่ก็ช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบหรือลดความเสี่ยงให้กับเรา และมันจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหากเราเอาไปใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่น ตอนนั้นเราจะรู้เลยว่าควรทำประกันตอนไหนอย่างไรดี

BlackJack ประกันอย่างไร

ทำประกันเดิมพันตอนไหนให้คุ้มที่สุด

ขึ้นชื่อว่าประกันจะให้ผลตอบแทนก็ต่อเมื่อโชคไม่เข้าข้างเราเท่านั้น แต่ถ้าไม่ตรงเงื่อนไขการจ่ายประกันขึ้นมาก็อย่าหวังว่าจะได้แม้แต่บาทเดียว

การประกันเดิมพันจะมีผลดีต่อเราก็ในกรณีที่เรามีแต้มมากกว่า 17 ไปจนถึง 21 แต้ม และฝั่งเจ้ามือต้องมีโอกาสที่จะจับได้ไพ่อื่นที่ไม่ใช่ 10 แต้ม ถ้าหากเจ้ามือไม่ติด แบล็คแจ็ค และได้แต้มต่ำกว่าเรา แน่นอนว่าเราจะชนะด้วยอัตราจ่าย 3 : 2 ทันที

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายว่าควรทำประกันหรือไม่ก็คือนับแต้มไพ่ของทุกคนรวมถึงเจ้ามือ เทคนิคนี้เป็นการคาดเดาแต้มสูง (A, K, Q, 10) แต้มกลาง (9, 8, 7) และแต้มต่ำ (6, 5, 4, 3, 2) เราจะต้องใช้สถิติของแต่ละกองมาคิดหาความน่าจะเป็นของไพ่ อาจจะดูยากไปสักหน่อยแต่ถ้าเข้าใจวิธีนับไพ่และมีสมาธิดีพอ มันจะช่วยให้มีโอกาสเสียเงินน้อยไม่ว่าจะเป็นการวางเดิมพันและประกันเดิมพัน

การทิ้งไพ่ในมือถือเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับเรา โดยเราจะทิ้งไพ่คู่ AA หรือ 88 แล้วจับไพ่ใหม่แทน มันจะทำให้เรามีโอกาสชนะด้วย BlackJack มากกว่าการแยกไพ่คู่นี้ออกมาเป็นสองขาเสียอีก

สิ่งที่หลายคนมักจะมองข้ามไปอีกอย่างก็คือการวางประกันเดิมพันเมื่อตัวเองติด แบล็คแจ็ค ส่วนมากมักจะพอใจจนลืมเรื่องกำไรที่จะได้ในรอบนั้น หากเราทำประกันเดิมพันไปด้วย หากเจ้ามือได้แต้มต่ำกว่าเรา เราก็จะชนะด้วยอัตราจ่าย 3 : 2 หรือถ้าเจ้ามือได้แต้มเท่ากับเรา แม้ผลจะเป็นเสมอ แต่ก็ยังได้กำไรจากเงินเดิมพัน และเงินประกันเดิมพันอีกด้วย

ย้อนรอยเกมไพ่ แบล็คแจ๊ค

สรุปก็คือการที่จะเอาชนะ BlackJack ได้ดวงไม่ช่วยอะไรเลยครับ การตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำต่างหากที่จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะและสามารถทำกำไรได้มากกว่าปกติ หากเราเข้าใจหลักการทำประกันเดิมพันแล้ว ทีนี้เราก็จะไม่ทำประกันมั่ว ๆ ส่งเดชเพียงเพราะเห็นอีกฝ่ายได้ไพ่ A เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป จำไว้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า ถ้าอยากได้กำไรจาก คาสิโนออนไลน์ ก็ต้องเล่นไพ่ด้วยสติเท่านั้นครับ

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

4 ความต่างที่ต้องรู้ก่อนเล่นระหว่าง BlackJack กับ Poker

4 ความต่างระหว่าง BlackJack กับ Poker

( 4 ความต่างระหว่าง BlackJack กับ Poker ) ในวงการนักพนันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกมพนันที่มีมากหน้าหลายตาทุกวันนี้มันถูกพัฒนามาจากต้นกำเนิดแค่ไม่กี่อย่าง หากจะแยกตามอุปกรณ์ ก็จะมี ไพ่ ลูกเต๋า วงล้อ ทายเลข และพวกทายผลกีฬา โดยเฉพาะไพ่มีหลายคนที่ค่อนข้างเข้าใจผิดหรือจำสับสน เอากติกาหรือวิธีเล่นไปปนมั่วกันหมด ยิ่ง BlackJack กับ Poker หากไม่ใช่การเล่นบน คาสิโนออนไลน์ แค่เข้าใจผิดผมว่ามีวุ่นวายกันแน่นอน

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ เล่น BlackJack Online ปลอดภัยจริงหรือ

เกมไพ่แบล็คแจ็ค

แม้ว่า BlackJack กับ Poker จะใช้ไพ่แค่ 1 สำรับ กับผู้เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แถมยังมีการเรียกไพ่ชุดต่าง ๆ ที่คล้ายกันอีก อย่าง Straight, Flush, Straight Flush เวลาเล่นก็ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ มีการหมอบไพ่เหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่าในความคล้ายกันตรงนี้มันมีอะไรที่แตกต่างกันมาก ว่าแล้วไปดูกันครับว่า แบล็คแจ็ค กับ โป๊กเกอร์ นั้นต่างกันตรงไหนบ้าง

อุปกรณ์การเล่น

หากเป็นการเล่นทั่ว ๆ ไปแบบไม่ใช่ไปเล่นตามบ่อนหรือคาสิโน ทั้งสองเกมนี้จะใช้ไพ่เพียงแค่ 1 สำรับเท่านั้น แต่ถ้าเป็น คาสิโนออนไลน์ เกม แบล็คแจ็ค จะเพิ่มไพ่ที่ใช้ในการเล่นเป็น 4 สำรับ สำหรับการเล่นแบบอเมริกัน หรือ 6 สำรับ ในรูปแบบการเล่นสไตล์ยุโรป ขณะที่โป๊กเกอร์นั้นยังใช้ไพ่ 1 สำรับเหมือนเดิม

รูปแบบการเล่นและวิธีเล่น

การเล่นโป๊กเกอร์จะมี 2 แบบ ก็คือ Cash Game กับ Tournament ทั้งสองแบบจะแตกต่างกันที่ Cash Game จะจบการเล่นและจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ชนะเพียงคนเดียวในโต๊ะนั้น ส่วน Tournament ผู้เล่นจะได้รับรางวัลก็ต่อเมื่อเป็นผู้ชนะของรายการ คือจะต้องเอาชนะในแต่ละโต๊ะให้ได้เพื่อเข้ารอบต่อไปเรื่อย ๆ

ส่วนวิธีเล่นโป๊กเกอร์ใน 1 เกมจะแบ่งออกเป็น 5 รอบ คือ Pre-Flop, Flop, Turn, River และ Show Down ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจัดไพ่ในมือให้เข้ากับไพ่กองกลางเพื่อให้ได้ชุดไพ่หรือมือที่ดีที่สุด การวัดผลแพ้ชนะจะเป็นการวัดกันระหว่างผู้เล่น และในแต่ละรอบผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะหมอบ, เพิ่มเดิมพัน, อยู่เฉย ๆ หรือจะวางเดิมพันตามผู้อื่น

แต่ แบล็คแจ็ค จะแตกต่างออกไปคือไม่ว่าจะมีผู้เล่นกี่คนก็ตาม จะเป็นการแข่งกันระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ โดยผู้เล่นจะต้องพยายามทำแต้มรวมของไพ่ในมือให้ได้มากกว่าเจ้ามือและต้องไม่เกิน 21 แต้ม ส่วนเจ้ามือเองก็ต้องทำแต้มให้ได้ระหว่าง 17-21 แต้ม จากนั้นค่อยมาวัดผลกับผู้เล่นทีละคน ใครชนะก็ได้เงินไป ใครแพ้ก็เสียเงิน

ในกรณีที่ผู้เล่นต้องการเลิกเล่นระหว่างเกม โป๊กเกอร์ จะสามารถเลิกเล่นในรอบไหนก็ได้เพียงแค่หมอบไพ่ก็พอ แต่ถ้าเป็น BlackJack จะหมอบได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วงไพ่สองใบเท่านั้น หากมีการจั่วเพิ่มก็ต้องอยู่ต่อจนกว่าจะถึงรอบวัดไพ่

เกมไพ่โป๊กเกอร์

การนับแต้มไพ่

สำหรับ แบล็คแจ็ค จะนับแต้มไพ่จากหน้าไพ่เท่านั้น โดยที่ดอกไพ่จะไม่ส่งผลถึงขนาดไพ่ ดังนี้

  • ไพ่ A มีค่าเป็น 1 แต้ม เมื่ออยู่กับไพ่ 2-9 แต่จะมีค่าเป็น 11 แต้ม เมื่ออยู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K
  • ไพ่ 2-9 มีค่าตามหมายเลขหน้าไพ่
  • ไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเป็น 10 แต้ม

ส่วน โป๊กเกอร์ ดอกไพ่จะมีผลต่อขนาดไพ่ โดยเรียงจากใหญ่ไปหาเล็ก คือ โพธิ์ดำ > หัวใจ > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก ในกรณีที่มีแต้มเท่ากัน จะดูที่ดอกไพ่ว่าใครใหญ่กว่ากัน สำหรับแต้มไพ่มีวิธีการนับดังนี้

  • ไพ่ A จะมีค่าน้อยที่สุดเมื่ออยู่กับชุดไพ่ 2-9 แต่จะมีค่ามากสุดเมื่ออยู่กับชุดไพ่ 10, J, Q, K
  • ไพ่ K มีค่าน้อยกว่า A
  • ไพ่ Q มีค่าน้อยกว่า K
  • ไพ่ J มีค่าน้อยกว่า Q
  • ไพ่ 10-2 มีค่าน้อยกว่า J เรียงตามลำดับตัวเลขจากมากไปหาน้อย

ตรงนี้จะเห็นว่าไพ่ A, 2-9 ของไพ่ทั้งสองแบบจะมีค่าเหมือนกัน แต่ 10, J, Q, K ของโป๊กเกอร์จะมีค่าไม่เท่ากัน ขณะที่ BlackJack ให้ค่าเท่ากันทุกใบคือ 10 แต้ม

 การวัดผลแพ้ชนะและอัตราจ่าย

วิธีวัดผลแพ้ชนะใน โป๊กเกอร์ จะใช้ชุดไพ่ซึ่งเรียงจากคะแนนมากที่สุดไปหาน้อยสุดดังนี้ Royal Flush > Straight Flush > Four of kind > Full House > Flush > Straight > Three of kind > Two pair > One pair > High card และในกรณีแต้มไพ่เท่ากัน หรือมีชุดไพ่เดียวกันจะใช้ดอกไพ่ และไพ่ที่เหลือเป็นตัว Kicker อีกที แม้ว่าในระดับทัวร์นาเมนท์จะมีผู้ชนะได้มากกว่าหนึ่งคน แต่เป็นการชนะแบบลำดับ 1, 2, 3 ดังนั้น โป๊กเกอร์ จึงยากที่จะเป็นเกมจบด้วยผลเสมอกัน ส่วนอัตราจ่ายคือเงินรางวัลทั้งหมดที่อยู่ใน Pot หรือเงินกองกลางที่ทุกคนวางเดิมพันไปนั่นเอง

คาสิโนออนไลน์

แต่ แบล็คแจ็ค ที่เล่นกันใน คาสิโนออนไลน์ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่ผลจะออกมาเสมอ เพราะใช้ไพ่มากกว่า 1 สำรับ และดอกไพ่ก็ไม่มีผลต่อการวัดผล แล้วในการแข่งก็เป็นการสู้กันระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่น ซึ่งสามารถเอาชนะได้หลายรูปแบบดังนี้

  • ชนะด้วย BlackJack (ไพ่สองใบที่รวมกันได้ 21 แต้ม) อัตราจ่าย 3 : 2 หรือ 6 : 5 แล้วแต่โต๊ะ
  • ชนะด้วยแต้มรวมที่มากกว่า และต้องไม่เกิน 21 แต้ม อัตราจ่าย 3 : 2 หรือ 6 : 5 แล้วแต่โต๊ะ
  • ชนะด้วยไพ่คู่ ได้แก่ ไพ่คู่เหมือน อัตราจ่าย 25 : 1, ไพ่คู่สี อัตราจ่าย 12 : 1 และ ไพ่คู่ผสม อัตราจ่าย 6 : 1
  • ชนะด้วยไพ่สามใบ โดยใช้ไพ่เรา 2 ใบกับไพ่หงายของเจ้ามือ 1 ใบ ได้แก่ ไพ่ตองเหมือน อัตราจ่าย 200 : 1, ไพ่เรียงสี อัตราจ่าย 100 : 1 และ ไพ่แต้มรวม 21 แต้ม อัตราจ่าย 15 : 1
  • ชนะด้วยไพ่สามใบของเราฝ่ายเดียว ได้แก่ ตองเหมือน อัตราจ่าย 100 : 1, Straight Flush อัตราจ่าย 40 : 1, ตอง อัตราจ่าย 30 : 1, Straight อัตราจ่าย 10 : 1 และ Flush อัตราจ่าย 5 : 1
  • ชนะด้วย Bet Behind หรือการวางเดิมพันตามผู้อื่น

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ BlackJack กับ Poker เล่นอันไหนดีกว่ากัน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

BlackJack American Style เล่นอย่างไรมาดูกัน

BlackJack American Style เล่นอย่างไร มาดูกัน

( BlackJack American Style เล่นอย่างไร มาดูกัน ) แบล็คแจ็ค หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าไพ่ยี่สิบเอ็ด หากเป็นการเล่นปกติทั่วเราแบบบ้าน ๆ เราก็แค่ใช้ไพ่ 1 สำรับ กับคนเล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปก็พอ แต่เมื่ออยู่ใน คาสิโนออนไลน์ จำนวนไพ่จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 6 สำรับ ตามแบบฉบับยุโรปที่จะช่วยให้เรามีโอกาสติด BlackJack เพิ่มขึ้น สำหรับวันนี้ผมมีการเล่นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะพาทุกคนไปรู้จักกันครับ นั่นก็คือวิธีการเล่นแบบ American Style ว่าแต่เล่นยังไงไปดูกันเลย

ก่อนที่คุณจะไปลงเล่นแบล็คแจ็คอย่างจริงจัง นอกจากต้องรู้วิธีเล่น BlackJack แล้วควรรู้เรื่องอัตราการจ่ายมากน้อยอย่างไร เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ

BlackJack American Style

กติกาการเล่น BlackJack แบบ American

สำหรับการเล่น แบล็คแจ็ค แบบอเมริกัน จะแตกต่างจากแบบยุโรปคือจำนวนไพ่ที่น้อยกว่า แบบอเมริกันจะใช้ไพ่ในการเล่นทั้ง 4 สำรับ ขณะที่ฝั่งยุโรปจะใช้ไพ่ 6 สำรับ ส่วนกติกาพื้นฐานยังคงเหมือนเดิมคือผู้เล่นจะต้องรวมแต้มไพ่ให้ได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด ผู้ที่ได้แต้มมากกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งวิธีการนับแต้มไพ่จะเหมือนกันคือ

  • ไพ่ A มีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม แต่จะมีแต้มเป็น 11 แต้ม ก็ต่อเมื่ออยู่คู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K เท่านั้น
  • ไพ่ 2-9 มีแต้มเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่
  • ไพ่ 10, J, Q และ K มีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม

ในเกมไพ่ BlackJack ดอกไพ่จะไม่มีผลต่อการวัดแต้ม ดังนั้นหากแต้มเดียวกันแต่ดอกต่างกันก็ถือว่าเสมอกัน

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คคือ การนับไพ่ BlackJack ซึ่งมีอยู่ถึง 5 เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการนับไพ่ BlackJack 

หลักการเล่น BlackJack แบบอเมริกัน

รูปแบบการเล่นแบบอเมริกันจะมีความคล้ายกับแบบยุโรป หรือที่เราคุ้นเคยตาม คาสิโนออนไลน์ ทั่วไป เพียงแต่จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างออกไปดังนี้

  • ใช้ไพ่ในการเล่นเพียงแค่ 4 สำรับเท่านั้น
  • เจ้ามือจะสามารถแง้มดูไพ่ของตัวเองที่หงายด้วยไพ่ 10 และไพ่ขอบ ได้แก่ J, Q, K หรือ A
  • เจ้ามือจะสามารถหยุดจั่วไพ่ หรือ “อยู่” ได้ก็ต่อเมื่อมีแต้มรวมของไพ่ในมือไม่ต่ำกว่า 17 แต้มเท่านั้น
  • ผู้เล่นจะสามารถทำ Double Down ได้เฉพาะเวลาที่มีไพ่อยู่ในมือสองใบเท่านั้น
  • หากผู้เล่นได้ไพ่คู่จะสามารถทำ Double Down หลังจากแยกไพ่ได้แล้วเท่านั้น
  • หากเป็นไพ่คู่ AA จะสามารถแยกได้แค่ครั้งเดียว
  • หลังจากที่แยกไพ่คู่ AA แล้วจะสามารถ Hit (จั่วไพ่เพิ่ม) ได้แค่ขาละ 1 ใบเท่านั้น
  • หากไพ่คู่แรกที่ได้เป็นคู่อื่นที่ไม่ใช่ AA จะสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด จนกว่าจะได้แต้มที่พอใจ
  • หากไพ่สองใบแรกที่ได้รวมแต้มแล้วเท่ากับ 20 แต้ม ได้แก่ 10J, 10Q, 10K, JQ, JK และ QK จะสามารถแยกไพ่ได้เช่นเดียวกับไพ่คู่ที่ไม่ใช่ AA

BlackJack-American-Style-เล่นอย่างไร

  • หากจั่วไพ่แล้วติดไพ่คู่อีก สามารถแยกเพิ่มได้อีก รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 4 ขา
  • แบล็คแจ็ค จะนับก็ต่อเมื่อไพ่สองใบแรกเป็น A10, AJ, AQ หรือ AK เท่านั้น
  • หากรวมแต้มไพ่แล้วได้ 21 แต้ม เช่น 777, 597 เป็นต้น จะไม่นับเป็น BlackJack
  • หากแยกไพ่คู่ AA แล้วจั่วติด A10, AJ, AQ หรือ AK จะไม่ถือว่าติด แบล็คแจ็ค
  • หากไม่ต้องการสู้ต่อ จะต้องหมอบในช่วงที่แจกไพ่สองใบแรกเท่านั้น

จะว่าไปแล้วหลักการเล่นพื้นฐานของอเมริกันสไตล์ก็คล้าย ๆ กับมาตรฐานที่ใช้เล่นกันทั่วโลก คือมีการแยกไพ่ จั่วไพ่ เพิ่มเดิมพัน นอกจากนี้ก็แล้วแต่ว่า คาสิโนออนไลน์ แต่ละแห่งจะมีกฎกติกาพิเศษอะไรบ้าง ดังนั้นก่อนเล่นเราก็ต้องดูด้วยครับว่า โต๊ะไหนจะช่วยทำกำไรให้กับเรา จากเงื่อนไขที่เขากำหนดนั่นเอง

เลือกโต๊ะเล่น BlackJack อย่างไรให้ได้กำไรงาม ๆ

แม้ว่า แบล็คแจ็ค จะเป็นเกมไพ่ที่มีค่า House Edge ค่อนข้างต่ำ คือ คาสิโนออนไลน์ มีความได้เปรียบเราน้อยก็จริง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีวิธีที่จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบอีกเล็กน้อย เช่น เพิ่มสำรับไพ่ที่ใช้เล่น รวมไปถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราต้องดูก่อนตัดสินใจเล่นดังนี้

  • จำนวนเดิมพันขั้นต่ำสุดและสูงสุดของโต๊ะ จะต้องสอดคล้องกับแผนการเงินของเรา
  • แต้มต่ำสุดที่เจ้ามือจะหยุดจั่วได้ควรเป็น 16 หรือ 17 แต้ม
  • เงื่อนไขการจ่าย แบล็คแจ็ค เป็นแบบ 3/2 หรือ 6/5 แต่ถ้าเลือกได้ควรเล่น 3/2 จะคุ้มกว่า
  • ดูด้วยว่าโต๊ะนั้นมีประกัน BlackJack ของเจ้ามือหรือไม่ ควรเล่นที่มีการวางประกัน อย่างน้อยเวลาที่เจ้ามือติด แบล็คแจ็ค ขึ้นมาเราก็ยังได้เงินคืน
  • เงื่อนไขการแยกไพ่ต้องดูด้วยว่าให้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งมากยิ่งดี ทั้งนี้ควรดูด้วยว่าโต๊ะให้แยกไพ่ในกรณีไหนบ้าง ตามหลักสากลคือจะแยกได้เฉพาะไพ่คู่ AA กับ 88 เท่านั้น บางที่อาจแยกได้ทุกคู่ รวมไปถึงแยกได้ทุกกรณีโดยไม่จำเป็นต้องเป็นไพ่คู่
  • ดูเงื่อนไข Double Down ด้วยว่าหลังจากแยกไพ่แล้วสามารถเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าได้หรือไม่
  • สำหรับ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งจะมีโต๊ะพิเศษที่เล่นด้วยไพ่ 5 ใบ คือ แจกไพ่ 2 ใบ จั่วเพิ่ม 3 ใบ โดยที่แต้มรวมจะต้องได้ไม่เกิน 21

BlackJack American Style เล่นอย่างไรมาดูกัน

และทั้งหมดนี้ก็คือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราต้องพิจารณาก่อนเล่นเสมอ แม้ว่าโต๊ะที่เราจะเล่นนั้นมีไม่ครบทุกเงื่อนไขก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ให้มีมากที่สุดเป็นใช้ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะและเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการเล่นไพ่ BlackJack ได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้ไพ่ของเจ้ามือมีความได้เปรียบน้อยลงอีกด้วย อย่างไรก็ตามในการเล่นพนันสิ่งที่ควรมีไว้ให้มากไม่ใช่ชิปเดิมพันแต่เป็นสติต่างหากครับ เล่นได้ก็ขอให้รู้จักพอ เล่นเสียก็อย่าไปหัวร้อน ไม่งั้นมีเท่าไหร่ก็ได้เสียให้ คาสิโนออนไลน์ หมดแน่นอน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ พร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

( วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ พร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้ ) นอกจากไพ่บาคาร่า แบล็คแจ็ค ถือได้ว่าเป็นเกมไพ่ที่นิยมเล่นกันมากเป็นอันดับต้น ๆ บน คาสิโนออนไลน์ ทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบฝั่งยุโรป สำหรับในบ้านเราก็อาจจะมีคาสิโนบ้างเจ้าที่ซื้อแบรนด์ยุโรปมาให้บริการ และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะมี BlackJack มาให้เราเล่นด้วย แต่ก่อนที่จะไปเล่นเราไปดูกันดีกว่าว่าไพ่นี้มีวิธีเล่นอย่างไร แล้วอัตราจ่ายมากน้อยแค่ไหน จะได้เตรียมตัวไว้ก่อนเล่น

สิ่งสำคัญสำหรับการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ที่ต้องเรียนรู้และห้ามมองข้ามเด็ดขาดก่อนไปเล่นจริงคือ กฏกติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

วิธีเล่น BlackJack

กติกาพื้นฐานในการเล่น BlackJack

ปกติแล้วหากเป็นการเล่นตามบ้านหรือบ่อนทั่วไปแค่ไพ่ 1 สำรับก็เพียงพอแล้ว แต่ใน คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะใช้ไพ่ 6 สำรับ ที่สับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วใส่ไว้ในขอนไพ่เช่นเดียวกับบาคาร่า จากนั้นก็จะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน คนละสองใบ จากนั้นแต่ละคนก็จะสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แต้มใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้ม สิ่งที่ต้องจำไว้คือเกมนี้เราจะไม่สามารถทิ้งไพ่หรือเลือกไพ่มาสู้ได้ เท่ากับว่าหากจั่วมาแล้วแต้มเกิน 21 แต้ม เราก็จะแพ้ทันที

สำหรับการนับแต้มไพ่ แบล็คแจ็ค จะมีวิธีการนับดังนี้

  • ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม แต่ถ้าอยู่คู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K จะมีค่าเป็น 11 แต้มทันที
  • ไพ่ 2 – 9 มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่ เช่น หน้าไพ่ 2 ก็จะมีค่าเท่ากับ 2 แต้ม เป็นต้น
  • ไพ่ J, Q และ K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม

ส่วนดอกไพ่จะไม่มีผลในการวัดแต้มไพ่ และจะไม่มีการใช้ Kicker กรณีที่แต้มไพ่เท่ากัน ดังนั้นผลที่ได้ก็จะมี ชนะ เสมอ และแพ้ หลังจากที่ได้รับแจกไพ่แล้ว ผู้เล่นแต่ละคนและเจ้ามือจะต้องเลือกเล่นด้วยตัวเลือกต่อไปนี้

  • Hit เป็นการจั่วไพ่เพิ่มอีกหนึ่งใบ หากแต้มไพ่รวมแล้วน้อยกว่า 21 แต้ม โดยผู้เล่นจะสามารถจั่วได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ ส่วนเจ้ามือจะต้องจั่วเพิ่มเรื่อย ๆ หากแต้มรวมของไพ่สองใบแรกน้อยกว่าหรือเท่ากับ 16 แต้ม และจะไม่สามารถจั่วได้หากแต้มรวมของไพ่สองใบแรกมากกว่าหรือเท่ากับ 17 แต้ม
  • Split เป็นการแยกไพ่ออกเป็นสองชุด จะใช้ในกรณีที่ไพ่สองใบแรกออกเป็นไพ่คู่ AA หรือ 88 เท่านั้น และผู้ที่แยกไพ่จะต้องวางเดิมพันเพิ่มอีกหนึ่งขา หลังจากที่แยกไพ่แล้วหากเป็นไพ่คู่ AA จะสามารถจั่วเพิ่มได้อีกขาละ 1 ใบ แล้วถ้าได้ไพ่ 10, J, Q หรือว่า K จะถือว่าเป็นการติด 21 แต้มธรรมดาเท่านั้น ไม่นับเป็น แบล็คแจ็ค แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถจั่วได้ไม่จำกัด
  • Double Down เป็นการเพิ่มเดิมพันอีกหนึ่งเท่าตัว ซึ่งจะต้องทำในช่วงไพ่สองใบแรกและจะต้องไม่ใช่คู่ แบล็คแจ็ค เท่านั้น และหลังจากเพิ่มเดิมพันก็จะสามารถจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียว

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

  • Surrender เป็นการยอมแพ้ซึ่งจะต้องทำในช่วงไพ่สองใบแรกเท่านั้น โดยผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันคืนกลับไปครึ่งหนึ่ง
  • Insurance เป็นการทำประกันเดิมพัน จะทำเมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A เจ้ามือจะเปิดโอกาสให้ขาบนโต๊ะสามารถทำประกันก่อนที่จะเปิดไพ่ใบที่สองได้ โดยเบี้ยประกันจะต้องจ่ายเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน หลังจากนั้นถ้าเจ้ามือติด แบล็คแจ็ค ผู้เล่นที่ทำประกันจะได้รับเงินประกันและเงินเดิมพันคืน แต่ถ้าไม่ติด BlackJack เงินประกันจะเสียเปล่าทันที
  • เก็บไพ่ หากผู้เล่นติด แบล็คแจ็ค แล้วไพ่ใบแรกของเจ้ามือออก A ผู้เล่นสามารถเลือกเก็บไพ่ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการเสมอกับเจ้ามือ

การชนะด้วย 21+3, Perfect Pair และ Bet Behind

นอกจากการเอาชนะด้วย แบล็คแจ็ค แล้ว (ได้ไพ่คู่ A10, AJ, AQ หรือ AK) และการชนะด้วยแต้มที่มากกว่าเจ้ามือและไม่เกิน 21 แต้ม ยังมีการชนะด้วยรูปแบบอื่น ๆ อีก 3 รูปแบบคือ

แบบ 21+3

เป็นรูปแบบการเอาชนะด้วยไพ่ 3 ใบ โดยไพ่ในมือจะต้องออกชุด ตองเหมือน, ตอง, Straight Flush, Straight และ Flush ซึ่งไพ่แต่ละชุดจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปรวมถึงอัตราจ่ายเรียงจากมือใหญ่ไปเล็กดังนี้

  • ตองเหมือน หมายถึงไพ่สามใบที่มีแต้มเดียวกันและดอกเดียวกัน (มีเฉพาะในเกมที่ใช้ไพ่ 6 สำรับ) อัตราจ่ายคือ 100 : 1
  • Straight Flush หมายถึง ไพ่สามใบที่มีแต้มเรียงกันและมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 40 : 1
  • ตอง หมายถึง ไพ่สามใบที่มีแต้มเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายอยู่ที่ 30 : 1
  • Straight หมายถึง ไพ่ที่มีแต้มเรียงกันสามใบ ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 10 : 1
  • Flush หมายถึง ไพ่สามใบที่มีดอกเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีแต้มเรียงกันก็ได้ อัตราจ่ายอยู่ที่ 5 : 1

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ-อัตราจ่าย

แบบ Perfect Pair

จะเป็นการเอาชนะกันด้วยไพ่สองใบแรกเช่นเดียวกับการติด แบล็คแจ็ค โดยเงื่อนไขก็คือไพ่ที่ได้รับต้องเป็นไพ่คู่เท่านั้น โดยแต่ละคู่จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปคือ

  • คู่เหมือน หมายถึงไพ่คู่ที่มีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 25 : 1
  • คู่สี หมายถึง ไพ่คู่ที่มีดอกสีเดียวกันจะเป็นคนละดอกหรือดอกเดียวกันก็ได้ เช่น โพธิ์ดำ คู่ ดอกจิก (สีดำ) หรือ หัวใจ คู่ ข้าวหลามตัด (สีแดง) อัตราจ่ายคือ 12 : 1
  • คู่ผสม หมายถึง ไพ่คู่ที่มีแต้มเดียวกัน แต่ดอกและสีต่างกัน เช่น โพธิ์ดำ คู่ หัวใจ หรือ ข้าวหลามตัด เป็นต้น อัตราจ่ายคือ 6 : 1

สาเหตุที่ทำให้มีโอกาสติด Perfect Pair ได้หลายคู่ เนื่องจากการเล่น แบล็คแจ็ค ใน คาสิโนออนไลน์ จะใช้ไพ่ตั้งแต่ 6 สำรับขึ้นไปในการเล่นครับ

แบบ Bet Behind

การเอาชนะด้วยรูปแบบนี้จะเป็นการวางเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น จะแพ้หรือชนะขึ้นอยู่กับไพ่ของคนอื่น เรามีหน้าที่แค่วางเดิมพันเท่านั้น และส่วนมากมักจะทำก็ต่อเมื่อเราแพ้ไปก่อนแล้วนั่นเอง

ถึงกติกาการเล่นไพ่แบล็คแจ็คจะไม่ยุ่งยากซ้ำซ้อน แต่ยังมีเรื่องของคำศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack ซึ่งถ้าไม่รู้รับรองได้เลยว่าแพ้แน่นอน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

( กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น )สิ่งสำคัญในการเล่น BlackJack ผมบอกเลยว่าดวงแทบไม่ช่วยอะไรเลย หากว่าทักษะพื้นฐานของเราต่ำเตี้ยเรี่ยดินชนิดที่ว่ากติกาพื้นฐานก็ยังไม่รู้ แล้วยิ่งใครที่จู่ ๆ เข้าไปเล่นแบบรู้แค่แต้มแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่ว่าไม่มีเทคนิคหรือลูกไม้อะไร สุดท้ายก็เป็นได้แค่หมูในอวยที่เข้าไปรอให้เขากินโต๊ะแค่นั้นแหละครับ ส่วนใครที่ไม่อยากมีชะตากรรมเช่นนั้นบน คาสิโนออนไลน์ แล้วล่ะก็ รีบอ่านบทความนี้ให้จบเลย แล้วจะรู้ว่า แบล็คแจ็ค นั้นมันมีอะไรที่จำเป็นมากกว่าดวง

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ 10 เว็บเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ที่ดีที่สุด

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

BlackJack นับแต้มอย่างไร ตอนไหนถึงจะแยกไพ่

สำหรับการนับแต้มไพ่ แบล็คแจ็ค จะต่างจากพวกไพ่อื่น ๆ ที่ใช้แค่หลักหน่วยเป็นตัวชี้ขาด สิ่งสำคัญในการวัดว่าใครแพ้หรือชนะคือแต้มรวมของไพ่ทั้งหมดในมือ ผู้ชนะคือคนที่รวมแต้มแล้วได้ 21 แต้มหรือใกล้เคียงที่สุด ส่วนคนที่ได้แต้มน้อยกว่าหรือว่ารวมแต้มแล้วเกิน 21 แต้มก็จะเป็นผู้แพ้ทันที ว่าแล้วเรามาดูแต้มไพ่กันดีกว่าครับว่าไพ่แต่ละใบมันมีกี่แต้ม จะได้ไม่พลาดกัน

  • ไพ่ A (Ace) เป็นไพ่เดียวที่มีสองค่าแล้วแต่ว่าจะไปอยู่กับไพ่ใบไหน หากไปอยู่ร่วมกับไพ่ 10, J, Q หรือ K ก็จะทำให้มีค่าเป็น 11 แต้ม และทำให้ติด แบล็คแจ็ค ทันที แต่ถ้าไปอยู่กับพวกไพ่หน้าแต้ม 2-9 ไม่ว่าจะดอกไหนก็มีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้น
  • ไพ่หน้าแต้ม 2-9 เป็นกลุ่มไพ่ที่มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าแต้ม
  • ไพ่หน้า 10, J, Q และ K ทั้งสี่ใบนี้จะมีค่าเท่ากันคือ 10 แต้ม

ส่วนการแยกไพ่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้เล่นติดไพ่คู่ในช่วงสองใบแรก ได้แก่ AA หรือ 88 ซึ่งใน คาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นจะถูกบังคับให้แยกไพ่อัตโนมัติ พร้อมกับบังคับให้วางเดิมพันเพิ่มตามขาที่แยก เพื่อที่จะได้เล่นไพ่ 2 ขาไปพร้อมกัน แต่ถ้าเงินไม่พอให้วางเดิมพัน ระบบก็จะบังคับให้หมอบหรือยอมแพ้นั่นเอง

หลังจากที่แยกไพ่แล้ว หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ AA จะได้รับสิทธิ์เรียกไพ่เพิ่มอีกขาละ 1 ใบ แต่ถ้าได้ไพ่คู่ 88 ก็จะสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจนกว่าเราจะพอใจในแต้มที่คิดว่าใกล้เคียง 21 แต้มแล้ว ในกรณีที่ได้ไพ่คู่อื่น ผู้เล่นจะเลือกอยู่นิ่งก็ได้หากพอใจกับแต้มที่ได้ หรือจะเรียกไพ่เพิ่มก็ได้เช่นกัน

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

กติกาในการเล่น แบล็คแจ็ค บน คาสิโนออนไลน์

โดยทั่วไปแล้วกติกาในการเล่น BlackJack จะใช้พื้นฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการเล่นตามบ่อนคาสิโน วงไพ่ในบ้าน หรือว่า คาสิโนออนไลน์ เพียงแต่อย่างหลังอาจมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วแต่เจ้ามือ ดังนั้นก่อนเล่นควรจะศึกษากติกาตรงนี้ให้ดีให้เข้าใจเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมาโวยวายกันทีหลังว่าโดนโกง สำหรับกติกาพื้นฐานที่ใช้กันเป็นมาตรฐานสากลก็มีดังนี้

  • ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจั่วไพ่เพิ่มแล้วรวมแต้มไพ่ในมือให้ได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด
  • หากผู้เล่นจั่วไพ่แล้วรวมแต้มออกมาเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแพ้ในเกมนั้นทันที โดยไม่สนว่าเจ้ามือจะมีแต้มมากน้อยแค่ไหน เพราะกฎเหล็กของเกมนี้คือ “อย่าให้เกิน 21 แต้ม”
  • ในกรณีที่เจ้ามือรวมแต้มไพ่แล้วได้น้อยกว่า 17 แต้ม จะถูกบังคับให้จั่วไพ่เพิ่มเรื่อย ๆ และจะหยุดจั่วได้ก็ต่อเมื่อแต้มรวมของไพ่อยู่ระหว่าง 17 ถึง 21 แต้มเท่านั้น
  • ฝั่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะจั่วไพ่หรือไม่ก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการจั่ว และไม่สนใจด้วยว่าในมือผู้เล่นจะรวมไพ่แล้วได้กี่แต้ม
  • หากผู้เล่นไม่ทำการจั่วไพ่ในเวลาที่กำหนด ระบบจะถือว่าเรา อยู่ โดยอัตโนมัติ

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

เทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ในการเล่น BlackJack

แม้ว่า แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ที่แทบจะไม่ต้องใช้ดวง และเน้นไปที่ทักษะฝีมือและประสบการณ์ของผู้เล่นเป็นหลัก ถึงอย่างนั้นสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการก็สามารถนำเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ไปใช้ในการเล่นได้เช่นกันครับ

  • เมื่อใดก็ตามที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือออก A เราควรจะรีบเดิมพันประกันไพ่ทุกครั้ง เพราะจากสถิติแล้วมีโอกาสที่เจ้ามือจะติดไพ่ แบล็คแจ็ค สูงมาก เราเลยต้องทำไว้เพื่อได้คืน แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เจ้ามือไม่ติด แบล็คแจ็ค และเราต้องเสียเงินเปล่าก็ตาม
  • ในกรณีที่ได้ไพ่คู่สูงอย่าง AA, KK, QQ, JJ, 1010 และ 88 ถ้า คาสิโนออนไลน์ เปิดให้เราแยกไพ่ได้ทุกคู่ก็จัดเลย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ แต่สำหรับบางเว็บอาจจำกัดให้แยกได้แค่คู่ AA กับ 88 ถึงอย่างนั้นมันก็ยังควรแยกอยู่ดี ที่สำคัญอย่าลืมดูเงินในกระเป๋าด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นดวงซวยเพราะโดนบังคับให้หมอบเพียงแค่เงินไม่พอให้เล่นสองขา
  • การจั่วไพ่ควรทำด้วยความระมัดระวัง ควรดูด้วยว่าแต้มรวมของไพ่ในมือเราอยู่ประมาณไหน หากรวมแล้วได้ไม่เกิน 11 แต้มก็น่าจั่วเพิ่มอยู่ แต่ถ้าได้สัก 12 หรือ 13 การอยู่จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะถ้าจั่วเพิ่มมันก็มีความเสี่ยงที่แต้มรวมจะทะลุ 21 แต้ม แทนที่จะชนะก็กลายเป็นแพ้เฉยเลย จำไว้ว่าตราบใดที่เจ้ามือไม่ได้ แบล็คแจ็ค เราก็ยังมีโอกาสชนะเสมอ

สำหรับมือใหม่ที่ยังหาทางเอาชนะเกมไพ่แบล็คแจ็คไม่ได้ ไม่ต้องวิตกไปเพราะเราได้รวบรวม 14 เคล็ดลับที่จะช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้นมาฝากกัน