LOGO blackjackarmy
LOGO blackjackarmy
Categories
เกมไพ่ BlackJack เทคนิค BlackJack

Hole Carding แค่มองไพ่ได้ก็ชนะ BlackJack

Hole Carding แค่มองไพ่ได้ก็ชนะ BlackJack

( Hole Carding แค่มองไพ่ได้ก็ชนะ BlackJack )ในโลกของ คาสิโนออนไลน์ นักพนันแต่ละรายย่อมมีเทคนิควิธีการเอาชนะที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการเหล่านี้ต่างก็ได้มาจากการมองเห็นช่องโหว่ของเกม หรือโอกาสที่จะเอาชนะเจ้ามือ รวมไปถึงการพัฒนากลยุทธ์ต่าง ๆ ด้วยประสบการณ์จนกลายเป็นสูตรการเล่นต่าง ๆ ที่สืบทอดกันมา โดยเฉพาะเทคนิคHole Cardingที่ได้ชื่อว่าเป็นวิธีการแสนง่ายที่จะเอาชนะ BlackJack ว่าแต่มันคืออะไร มันใช้อย่างไร ไปดูกันเลยครับ

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คคุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

Hole Cardingคืออะไร

Hole Cardingคืออะไร

ถ้าจะเอาง่าย ๆ ตรงไปตรงมา มันก็คือเทคนิคการแอบมองไพ่ แบล็คแจ็ค นั่นเอง แต่การที่จะใช้เทคนิคนี้ได้จำเป็นต้องมีชั้นเชิงกันเสียหน่อย ไม่ต่างจากการบลัฟในโป๊กเกอร์ที่ต้องทำด้วยความชำนาญอย่างมีศิลปะ และหากสามารถทำได้ล่ะก็โอกาสที่เราจะชนะมีมากกว่า 95% เลยทีเดียว

หัวใจของHole Cardingคือการเก็บข้อมูลบางอย่างจากไพ่ที่คว่ำอยู่ (Hole Card) ของเจ้ามือ การที่จะมองไพ่ใบนี้ได้จำเห็นต้องใช้ความสามารถล้วน ๆ อุปกรณ์ไม่ต้อง ถึงมันจะดูยากไปเสียหน่อย แต่รับรองได้เลยว่ามันไม่ผิดกฎหมายและเจ้ามือก็ไม่สามารถเอาผิดเราได้ด้วย เว้นแต่ว่าเราจะส่งคนไปยืนมองไพ่หลังเจ้ามือหรือมีคนแอบส่งสัญญาณให้ อันนี้คือผิดเต็ม ๆ แล้วก็เตรียมตัวรับบทลงโทษกันได้เลย

BlackJack ถือได้ว่าเป็นเกมที่ต้องเล่นด้วยการคาดคะเนและคำนวณไพ่จากแต้มของเรากับเจ้ามือ เมื่อใดก็ตามที่รู้ถึงความน่าจะเป็นของHole Cardฝั่งเจ้ามือก็จะทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งดีกว่าการนั่งมองไพ่เฉย ๆ และสร้างความเสียเปรียบให้เราได้มากถึง 0.5% อย่างไรก็ตามกลยุทธ์Hole Cardingแม้จะไม่ผิดกฎหมายแต่ถ้าถูกจับได้ก็อาจโดน เจ้ามือ หรือ คาสิโนออนไลน์ ตัดสิทธิ์ไม่ให้เล่นเลยก็ได้

เอาใจมือใหม่เล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คกับ 14 เคล็ดลับที่จะช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้น

กลยุทธ์Hole Cardingใช้อย่างไร

  1. เลือกโต๊ะก่อนเล่นเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นบ่อนหรือ คาสิโนออนไลน์ สิ่งที่ต้องทำก่อนตัดสินใจเล่นก็คือการเลือกโต๊ะก่อนเล่นเสมอ โดยมองหาโต๊ะที่เป็นดีลเลอร์มือใหม่ หรือพวกประสบการณ์น้อย พวกนี้จะไม่ค่อยรอบคอบมากนัก ทำให้มีโอกาสผิดพลาดสูง วิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือดูที่การหยิบไพ่ หากเป็นพวกที่คล่องมาก ๆ มักจะหยิบไพ่แทบจะไม่ห่างจากโต๊ะ ต่างจากดีลเลอร์มือใหม่ที่มักจะหยิบไพ่สูงกว่าโต๊ะผิดปกติ

  1. วิเคราะห์ดีลเลอร์ก่อนวางเดิมพัน

หลังจากที่เราได้โต๊ะแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนเข้าไปนั่งวางเดิมพันในทันที แต่ให้ลองดูก่อนสัก 2-3 ตา เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์Hole Cardingจะสามารถใช้กับดีลเลอร์คนนี้ได้จริง นอกจากนี้ต้องคอยดูด้วยว่าจุดนั่งตรงไหนที่ทำให้เราได้เปรียบในการมองไพ่ ที่สำคัญควรจะทำทีให้เหมือนว่าเรามาดูเกม แบล็คแจ็ค จะได้ไม่ถูกสงสัยตั้งแต่ยังไม่ได้เล่น

 

Hole Carding

  1. มองหาโต๊ะที่วางที่สับไพ่ใกล้กับผู้เล่น

เครื่องสับไพ่ถือว่าเป็นอีกแหล่งข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้Hole Cardingของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรจะเลือกจุดที่สามารถมองเห็นเครื่องสับไพ่ได้ชัดเจน เช่น ตำแหน่งขวามือสุดของโต๊ะ BlackJack ที่มักจะวางเครื่องไว้แถวนี้ อย่างน้อยมันก็จะช่วยให้เรามีโอกาสแอบมองไพ่ได้มากขึ้น

  1. มองหาเครื่องสับไพ่ที่ช่องหยิบไพ่สูงกว่าโต๊ะ

สำหรับเครื่องสับไพ่คาสิโนบางแห่งยังคงใช้เครื่องรุ่นเก่าที่มีช่องหยิบไพ่หรือปากทางออกอยู่เหนือโต๊ะประมาณ 2-3 นิ้ว ถือเป็นช่องโหว่หนึ่งที่ทำให้เราสามารถแอบมองไพ่ได้ แต่ถ้าเป็นเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีของแบรนด์ ACE สีดำเท่านั้นที่ยังคงทำปากทางออกสูงเหนือโต๊ะ และยังคงนิยมใช้ในคาสิโนอีกด้วย

  1. นั่งในจุดที่ตรงกับมือแจกไพ่ของดีลเลอร์

สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือดีลเลอร์แต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนถนัดซ้าย บางคนถนัดขวา ตรงนี้เราเอามาวิเคราะห์ได้ว่าหากดีลเลอร์ถนัดซ้ายให้เรานั่งฝั่งซ้ายของดีลเลอร์ซึ่งเป็นตำแหน่งแรก หรือถ้าดีลเลอร์ถนัดขวาก็ให้นั่งฝั่งขวาของดีลเลอร์แทน ซึ่งจะเป็นตำแหน่งสุดท้าย

  1. จับจ้องมองที่มุมไพ่Hole Card

สำหรับนักเล่น แบล็คแจ็ค มืออาชีพ จะไม่ค่อยพลาดในการมองมุมไพ่Hole Cardของเจ้ามือ จากมุมไพ่ที่เผลอเผยอให้ได้เห็นเพียงเล็กก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่าไพ่ใบนั้นคืออะไร หากมองไม่เห็นตัวเลขและมีลักษณะเป็นขอบ ไพ่นั้นมีโอกาสเป็น Face Card (ไพ่ J, Q, K) หากมองไม่เห็นอะไรเลยอาจเดาว่าเป็นไพ่แต้มต่ำอย่าง A, 2, 3 การจะใช้เทคนิคนี้ได้นอกจากความเนียนแล้วอาจต้องใช้แว่นดำในการพรางสายตาที่จับจ้องHole Cardของเจ้ามือด้วย

  1. มองมุมไพ่ทุกครั้งที่มีการเช็ค

ทันทีที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A หรือไพ่ 10 แต้ม ดีลเลอร์ส่วนใหญ่มักจะแอบมองไพ่อีกใบว่าสามารถทำให้ตนติด BlackJack ได้หรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้แอบดูไพ่ไปด้วย

  1. เพิ่มโอกาสชนะด้วยการเล่นกันเป็นทีม

Hole Cardingจะทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อเราเล่นกันเป็นทีม เพราะมันจะช่วยให้เรามีโอกาสชนะมากถึง 70% เพียงแค่เรามีเพื่อนเล่นอยู่ด้วยในโต๊ะนั้น หากมีคนใดคนหนึ่งที่สามารถแอบมองไพ่ได้ อาจใช้วิธีส่งสัญญาณที่รู้กันในกลุ่ม จะเป็นเคาะโต๊ะ แตะขา หรือว่าอะไรก็ได้ แต่สิ่งสำคัญก็คืออย่าให้ใครรู้ว่าเรารู้จักกัน เพื่อให้เกิดความไหลลื่นและเลี่ยงต่อการถูกจับได้

  1. เสี่ยงเท่าที่จำเป็น

เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถคาดเดาได้ว่าHole Cardของเจ้ามือคืออะไร เราก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเดิมพันได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ควรเสี่ยงเด็ดขาด ให้ทำตามแผนเดิมหรือใช้กลยุทธ์พื้นฐานอื่น ๆ แทน เช่น การนับแต้มไพ่ เป็นต้น

BlackJack-Hole Carding

  1. ไม่พลาดที่จะ Double Down หรือ Split ทุกครั้งที่เจ้ามือมีโอกาสทะลุ 21 แต้ม

ถ้าหากว่าไพ่ของเจ้ามือมีโอกาสที่จะติดแต้มระหว่าง 12-16 ก็มีความเป็นไปได้ว่าในการจั่วครั้งต่อไปมีโอกาสที่เจ้ามือจะมีแต้มรวมเกิน 21 แต้ม ให้เรา Double Down หรือถ้าถือไพ่คู่อยู่ในมือล่ะก็แยกมันออกมาเป็น 2 กอง จะช่วยให้เรามีโอกาสทำกำไรมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการทำHole Cardingจะช่วยให้เรารู้แนวทางการเล่นว่าต่อไปควรจะ Hit หรือ Stand ดี

  1. รีบ Hit เมื่อเจ้ามือติด 17 แต้ม

หลังจากที่เรามอง Hole Card ของเจ้ามือแล้วมั่นใจว่าต้องได้แต้มอย่างน้อย 17 แต้ม ควรจะ Hit ทันที เพราะถ้าเรามีน้อยกว่า 17 แต้มเท่ากับว่าเรามีโอกาสแพ้มากกว่า แต่ก็ต้องดูด้วยว่าแต้มในมือเรามีโอกาสที่จะ Bust หรือแต้มทะลุ 21 แต้มหรือไม่จากการจั่วไพ่ใบต่อไป

  1. ไม่จำเป็นต้อง Hit หากคิดว่าอีกฝ่ายจะเกิน 21 แต้ม

เงื่อนไขการเอาชนะ แบล็คแจ็ค ไม่ใช่การได้ 21 แต้ม แต่ 21 แต้มคือคะแนนสูงสุดของเกมไพ่ชนิดนี้ ดังนั้นหากคิดว่าอีกฝ่ายจะติด Bust แล้วล่ะก็ เราเองไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยง Hit แต่อย่างใด แค่ Stand เอาไว้รอให้อีกฝ่ายทำแต้มเกิน แค่นี้เราก็ชนะได้ง่าย ๆ แล้ว

นอกจากพื้นฐานของกลยุทธ์Hole Carding ทั้ง 12 ข้อนี้แล้ว การที่จะทำให้เทคนิคนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นจำเป็นต้องใช้การฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญ นอกจากนี้กลยุทธ์Hole Carding ยังแบ่งออกเป็น 4 รูป ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันดังนี้

รูปแบบที่ 1 : First-Basing and Spooking

เป็นวิธีการพื้นฐานในการเช็คไพ่ Hole Card โดยเราจะแอบมองไพ่ของเจ้ามือขณะที่อีกฝ่ายกำลังเช็คไพ่ Hole Card อยู่ ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า First-Basing ส่วนการทำ Spooking คือการให้ผู้เล่นอีกคนช่วยแอบมอง Hole Card ของดีลเลอร์จากอีกมุม จากนั้นค่อยแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยการส่งสัญญาณให้กัน สำหรับนักเดิมพันที่เชี่ยวชาญการทำHole Carding ในเกม แบล็คแจ็ค มักจะเอาข้อมูลที่ได้มาอ้างอิงกับตารางสูตรข้างล่างเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะ Hit หรือ Stand

First-Basing and Spooking

จากตารางเป็นตัวอย่างการเล่น BlackJack ที่ใช้ไพ่ 6 สำรับในการเล่น และเจ้ามือจะ Stand เมื่อได้แต้ม 17 โดย Columns จะหมายถึงแต้มฝั่งเจ้ามือ ส่วน Rows จะหมายถึงแต้มฝั่งเรา สีแดงคือ Stand และสีเขียวคือ Hit ยกตัวอย่างเช่น เจ้ามือได้ 17 แต้ม ส่วนเราได้ 18 แต้ม จุดตัดคือสีเขียวแสดงว่าตานี้เราจะต้อง Hit

รูปแบบที่ 2 : Front-Loading

การทำ Front Loading คือการแอบมองไพ่ขณะที่ Hole Card ถูกเลื่อนไปอยูใต้ไพ่ที่หงาย เราจะเริ่มมองตั้งแต่ตอนที่ไพ่ออกจากเครื่องสับไพ่โดยอาศัยช่วงเวลาที่ไพ่ย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ทักษะการแอบมองระดับสูง เพราะมีแค่ช่วงที่ไพ่ถูกหยิบขึ้นมากับจังหวะที่ไพ่สะดุดกับโต๊ะเท่านั้นเราจะมีโอกาสได้แอบมอง ดังนั้นการนั่งในตำแหน่งที่อยู่ใกล้เครื่องแจกไพ่จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้วิธีนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น

รูปแบบที่ 3 : Partial Information

เนื่องจาก Hole Cardingเป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้ความชำนาญในการแอบมองเป็นหลัก แต่ข้อมูลที่ได้มาก็มักจะทำให้เกิดความลังเล เช่น หากเห็นขอบไพ่ไม่มีจุดสีอะไรเลย อาจเป็นไพ่ A, 2 หรือ 3 ก็ได้ แต่ถ้ามีจุดสีเล็ก ๆ อาจเป็นไพ่ 4-10 ซึ่งตรงนี้ถ้าไม่มีความมั่นใจก็อาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้เหมือนกัน ดังนั้น Partial Information จึงเกิดมาเพื่อแก้ไขสิ่งด้วยด้วยตารางข้อมูลด้านล่าง

Partial Information

จากตารางนี้ Column จะหมายถึงแต้มไพ่หงายของเจ้ามือ ส่วน Rows คือแต้มไพ่ของเรา สมมติว่าไพ่หงายของเจ้ามือเป็น 9 แต้ม แล้วเรามีอยู่ 12 แต้ม จากตารางจะเป็นสีแดงหมายความว่าให้เรา Stand ไว้ก่อน เพราะเจ้ามือมีโอกาส Hit เกิน 21 แต้ม หากไพ่อีกใบทำให้มีแต้มอยู่ระหว่าง 12-16 แต้ม หรือถ้าไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A ส่วนเรามี 17 แต้ม จะเห็นว่าเป็นช่องสีเขียว หมายความว่าให้เรา Hit สู้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาสติด แบล็คแจ็ค แต่การจั่วสู้ก็ดีกว่ายอมแพ้ไปเฉย ๆ

รูปแบบที่ 4 : Next Card Play

กลยุทธ์ Next Card Play ค่อนข้างจะย้อนแย้งกับ Hole Carding เสียหน่อยตรงที่เราจะไม่สนใจ Hole Card ของเจ้ามือ แต่เบนความสนใจไปที่ไพ่ใบที่สามของเจ้ามือแทน หรือที่เรียกกว่า Next Card ซึ่งต้องอาศัยจังหวะแจกไพ่ใบที่สามเท่านั้นในการแอบมอง ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อกลยุทธ์นี้ก็คือ ตำแหน่งที่นั่ง การนั่งในตำแหน่งแรกหากไม่ Hit คนต่อไปก็จะ Hit แทน แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายแล้วไม่ Hit เจ้ามือก็อาจยกเลิกไพ่ใบนี้ หรือใช้เป็นไพ่ใบที่สองของเจ้ามือแทน ดังนั้นการมองไพ่ Next Card จึงช่วยให้เรามีโอกาสคาดเดาได้แม่นขึ้นและเพิ่มโอกาสชนะให้กับเราด้วย

สำหรับใครก็ตามที่ต้องการใช้กลยุทธ์Hole Carding การฝึกฝนทักษะแอบมองแบบเนียน ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ หลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องยากมากหากเราจะใช้กลยุทธ์นี้ในบ่อนคาสิโน เพราะหลายที่ก็มีการใช้เครื่องสับไพ่ที่มีช่องจ่ายแทบจะเรียบไปกับโต๊ะ แต่ก็อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่าต่อให้เป็น คาสิโนออนไลน์ ถ้าหากดีลเลอร์เป็นมือใหม่หัดแจกไพ่ ยังไงก็ย่อมมีจุดอ่อนให้เราได้เห็น และเล่นงานด้วยกลยุทธ์นี้ อย่างไรก็ตามใครที่คิดจะเพิ่มโอกาสชนะด้วยการพาคู่หูไปเล่นด้วยล่ะก็ ควรจะหาคนที่เข้าใจเรื่อง Hole Carding มีทักษะตรงนี้ค่อนข้างสูง ที่สำคัญควรจะเล่นเข้าขากับเราด้วย ไม่อย่างนั้นหากโดนจับได้ขึ้นมาอาจถูกแบนไม่ให้เล่น แบล็คแจ็ค จากคาสิโนทุกที่ได้เหมือนกัน

Last Updated on 11 months by admin11

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ในการแยกไพ่ BlackJack

6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ใน การแยกไพ่ BlackJack

( 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ใน การแยกไพ่ BlackJack )พูดถึงเรื่องแยกไพ่ แบล็คแจ็ค เชื่อว่าหลายคนคงจำได้ดีว่าเราจะต้องแยกไพ่ทุกครั้งเมื่อได้ไพ่คู่ AA หรือไพ่คู่ 88 เสมอ แม้ว่าเดี๋ยวนี้ตาม คาสิโนออนไลน์ ต่าง ๆ จะมีการพัฒนากฎกติกาการเล่นใหม่ ๆ ขึ้นมาให้สามารถแยกไพ่ได้ทุกคู่ก็ตาม แต่เราก็ยังคงคุ้นเคยกับการแยกไพ่แบบเดิม ๆ จนทำให้แยกไพ่ผิด ๆ ถูก ๆ กันไป จากที่ควรชนะก็กลายเป็นแพ้ ในบทความนี้เราจะได้รู้กันครับว่ามันมี 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ในการแยกไพ่ BlackJack ยังไงบ้าง เพื่อให้เรามีไพ่ที่ดีที่สุดอยู่ในมือ

คุณอาจสนใจความเป็นมาของเกมไพ่แบล็คแจ็ค ต้องอ่านบทความนี้  ย้อนรอย BlackJack จากเกมไพ่สู่ คาสิโนออนไลน์

การแยกไพ่ BlackJack

การแยกไพ่คืออะไร

ในการแยกไพ่ของ แบล็คแจ็ค จะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้รับไพ่แต้มเดียวกัน 2 ใบ หรือที่เรียกว่าไพ่คู่ โดยจะต้องแยกไพ่ออกเป็น 2 ข้าง เมื่อแยกเสร็จแล้วเราก็ต้องวางเดิมพันเข้าไปในขาที่แยกออกมา จากนั้นจึงทำการ Hit เพื่อเรียกไพ่เพิ่ม หากติดคู่อีกก็สามารถแยกได้อีก (สำหรับ คาสิโนออนไลน์ บางแห่ง) อย่างไรก็ตามในกฎพื้นฐานของการแยกก็คือ หากได้ไพ่คู่ AA หลังจากแยกแล้วจะจั่วไพ่เพิ่มได้แค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด

เล่นเป็นทั้งไพ่แบล็คแจ็คและไพ่โป๊กเกอร์แต่ไม่รู้ต่างกันตรงไหน คลิกอ่าน 4 ความต่างที่ต้องรู้ก่อนเล่นระหว่าง BlackJack กับ Poker

6 สิ่งควรทำในการแยกไพ่ BlackJack

ถ้าหากว่า คาสิโนออนไลน์ ที่เราเล่นเป็นแบบที่อนุญาตให้แยกไพ่ได้ทุกคู่แล้วล่ะก็ นี่คือ 6 สิ่งที่ควรทำเมื่อได้ไพ่คู่ครับ

  1. แยกไพ่คู่ AA ทุกครั้ง

ขอนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องรู้กันอยู่แล้ว แต่ในบางเกมที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะไม่แยกก็ได้ การตัดสินใจไม่แยกก็เท่ากับว่าตัดสินใจไม่ติด แบล็คแจ็ค ดังนั้นการแยกจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้เรา เพียงแต่ต้องเพิ่มเดิมพันมาอีกหนึ่งขา จากนั้นก็เล่นกันไปตามปกติ

ลองคิดดูว่าการเล่นด้วยไพ่คู่ AA เท่ากับว่าเรามีแต้มเริ่มต้นแค่ 12 จึงมีแค่ 9 เท่านั้นที่จะทำให้เราติด 21 แต้มได้ แต่ถ้าเราแยกออกเป็นสองขา แต่ละขาจะมีลุ้นได้ 21 แต้มจากการติดไพ่ 10, J, Q หรือ K คือเพิ่มโอกาสชนะด้วย 21 แต้มได้ถึง 4 รูปแบบนั่นเอง

  1. แยกไพ่คู่ 88 เสมอ

นอกจากไพ่คู่ AA อีกคู่ที่ควรแยกก็คือไพ่คู่ 88 ทันทีที่เราได้คู่นี้มาถือว่าเป็นมือที่เล่นยากมาก ๆ เพราะเริ่มต้นที่ 16 แต้ม ถือว่าเป็นมืออ่อน การ Hit จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำแต้ม Over 21 แต่ถ้า Stand ก็ยากที่จะชนะเช่นกัน วิธีลดความเสี่ยงไปพร้อมกับเพิ่มโอกาสชนะจึงมีเพียงแค่การแยกไพ่เท่านั้น

แยกไพ่แบล็คแจ๊ค

  1. หากแยกแล้วยังได้ไพ่คู่ AA หรือ 88 อีก ให้แยกอีกครั้ง

แม้ว่าจะมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้ในการที่เราจะติดไพ่คู่แบบติดซ้ำติดซ้อน ดังนั้นหาก คาสิโนออนไลน์ เขายินดีให้เราแยกไพ่ได้อีก ก็แยกเลย ถึงจะต้องวางเดิมพันเพิ่มขึ้น แต่เราก็มีโอกาสชนะเพิ่มขึ้นด้วย

  1. แยกไพ่คู่ 22, 33, 77 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ 7 หรือต่ำกว่า

นอกจากจะดูแต่ไพ่ฝั่งเราแล้ว ไพ่ของเจ้ามือก็เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ตัดสินใจได้เช่นกัน โดยเฉพาะเวลาที่ไพ่ใบแรกของอีกฝ่ายมีแต้มไม่เกิน 7 แต้ม แล้วเราได้ไพ่คู่ 22, 33 หรือ 77 เช่นนี้ก็ควรที่จะแยกออกไปก่อน

แต่ถ้าเราถือไพ่คู่เหล่านี้ไว้ แล้วเจ้ามือมีไพ่มากกว่า 7 แต้ม แทนที่จะแยก ก็ให้เปลี่ยนเป็น Hit แทน เพราะโอกาสชนะจะมีมากกว่าการแยกไพ่

  1. แยกไพ่คู่ 66 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ตั้งแต่ 2 – 6

ทันทีที่เราได้ไพ่คู่ 66 สิ่งที่ต้องดูก็คือฝั่งเจ้ามือถือแต้มระหว่าง 2 – 6 หรือไม่ หากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ให้แยกไพ่ทันที แต่ถ้าเจ้ามือมีแต้มที่ดีกว่าให้เสี่ยง Hit ไป เพราะมีแค่ไพ่ 10 แต้มเท่านั้นที่จะทำให้เราแพ้ได้ในการจั่วแค่ครั้งเดียว

  1. แยกไพ่คู่ 99 เมื่อเจ้ามือมี 2, 3, 4, 5, 6, 8 หรือ 9

การตัดสินใจ Hit ด้วยไพ่คู่ 99 ไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย เพราะมีเพียงแค่ไพ่ 2 กับ 3 เท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดได้ ดังนั้นการแยกไพ่คู่ 99 ออกจากกัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการสู้กับไพ่เหล่านี้ แต่ถ้าเจ้ามือมีไพ่ 7 หรือ 10 แต้ม ให้ Stand แทน เพราะไพ่ 18 แต้มในมือถือว่าแข็งพอที่จะเอาชนะได้

ไพ่แบล็คแจ็คสิ่งที่ควรทำและห้ามทำ

3 สิ่งต้องห้าม สำหรับการแยกไพ่ แบล็คแจ็ค

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 10

ใครที่อยากฆ่าตัวตายก็แยกไพ่คู่ 10 ได้เลยครับ ตรงนี้เห็นชัดกันแล้วว่าเรามี 20 แต้มในมือ สิ่งเดียวที่จะทำให้เราแพ้ได้ก็คือ แบล็คแจ็ค ขอเจ้ามือ กับ 21 แต้ม เท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายมืออ่อนมาก ๆ แล้วเราก็อยากจะเพิ่มกำไร ก็สามารถแยกได้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะเอามืออ่อนมาตบไพ่เราได้สำเร็จ

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 44

ไพ่คู่นี้ถือว่าเป็นมือที่อ่อนมากอยู่แล้ว การ Hit จำเป็นต้องติดไพ่ 10 แต้มเป็นอย่างน้อยถึงจะทำให้ไพ่แข็ง การแยกไพ่จะทำให้ไพ่อ่อนลงไปอีก และสถานการณ์จะเลวร้ายถ้า Hit แล้วติดไพ่ 2 หรือ 3 กลับมา จะเท่ากับว่าเราเสียเงินไปสองเท่าอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

  1. ห้ามแยกไพ่คู่ 55

สภาพของไพ่คู่ 55 บอกเลยว่าไม่ต่างจากคู่ 44 แทนที่จะแยก แนะนำว่าให้ Hit สู้ยังจะคุ้มกว่า เพราะตอนนี้เรามีอยู่ในมือแล้ว 10 แต้ม ขอแค่ Hit ติดไพ่ 7-10 แต้มอีกสักใบก็พอที่จะ Stand ได้แล้ว

Last Updated on 11 months by admin11

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

( จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack )ถ้าพูดถึงกลยุทธ์หรือสูตร แบล็คแจ็ค อย่างแรกที่คนส่วนใหญ่จะคิดถึงเลยก็คือ การนับไพ่ คงต้องยอมรับว่าเทคนิคนับไพ่มันแทบจะเป็นตำนานแห่งวงการไพ่ 21 ไปเสียแล้ว เมื่อมันโดนขยี้ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Rain Man ที่การันตีด้วยรางวัลออสการ์ ทำให้แทบทุกคาสิโนรวมถึง คาสิโนออนไลน์ ต้องคอยจับตาไว้ว่าจะมีนักเล่นคนไหนพยายามใช้เทคนิคนี้บ้าง ราวกับว่าคนที่ใช้สูตรนี้ได้แทบจะเป็นพระเจ้ากันเลยทีเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ว่าแต่ทำไมหลายคนถึงพยายามใช้ ทำไมหลายบ่อนถึงไม่ถูกใจเทคนิคนี้ เราไปดูกันดีกว่าครับ

อีกหนึ่งสูตรเดินเงินมาแรงสำหรับเกมไพ่แบล็คแจ็ค อ่านต่อ The Knock Out สูตร BlackJack ล้มเจ้าที่ไม่ควรพลาด

จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับไพ่ BlackJack

การนับไพ่คืออะไร ทำกันอย่างไร

การนับไพ่ BlackJack ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักพนันนิยมใช้กัน เพื่อใช้สร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง ด้วยการคาดเดาตามความน่าจะเป็นว่า เมื่อไพ่ของเจ้ามือเป็นแบบนี้ และเราถือไพ่คู่นี้อยู่ โอกาสที่ไพ่อีกใบของเจ้ามือจะเป็นอะไร สำหรับผู้เล่นที่ใช้เทคนิคนี้จนชำนาญอาจสามารถมองไปถึงไพ่ที่เหลืออยู่ในสำรับอีกว่าน่าจะมีอะไรอยู่ในกองนั้นบ้าง จนบางคนอาจกดความได้เปรียบของ คาสิโนออนไลน์ ไปอยู่ในระดับที่เกือบเป็นศูนย์โดยสมบูรณ์ก็มีมาแล้ว

สำหรับการนับไพ่ แบล็คแจ็ค จะมีอยู่ 4 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เปรียบมากยิ่งขึ้นคือ

  • กำหนดค่าตัวเลขให้กับไพ่ทุกใบ
  • นับไพ่ที่ถูกแจกออกมาในใจด้วยค่าเลขที่กำหนดไว้
  • เอาค่าไพ่ที่นับได้มาคำนวณหาไพ่ในสำรับ หรือที่เรียกกันว่า “การนับที่แท้จริง”
  • นำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับเดิมพันเมื่อจำนวนที่แท้จริงเพิ่มขึ้น

ปกติแล้วการนับไพ่จะใช้กลยุทธ์ สูง-ต่ำ (Hi-Lo) โดยการแบ่งไพ่ออกเป็น 3 กลุ่ม ให้ไพ่แต้มต่ำ (2, 3, 4, 5) มีค่าเป็น +1 ไพ่แต้มกลาง (6, 7, 8, 9) มีค่าเป็น 0 และไพ่แต้มสูง (10, J, Q, K) มีค่าเป็น -1 ทุกครั้งที่เรามองเห็นหน้าไพ่ทั้งของฝั่งผู้เล่นและ ฝั่งเจ้ามือ ให้นับค่านี้ไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้เรามองเห็นโอกาสที่อีกฝ่ายจะได้ 21 แต้ม มากน้อยแค่ไหน หากนับแล้วได้ค่าเป็นบวก แสดงว่ามีโอกาสดีที่จะเพิ่มเดิมพัน

ใครที่กำลังจะเปลี่ยนไปเล่นแบล็คแจ็คแบบทัวร์นาเม้นท์แนะนำให้อ่านต่อ BlackJack Tournament เล่นเป็นเห็นเงินก้อน

ข้อดีของการนับไพ่ BlackJack

แม้ว่าในการเล่นตาม คาสิโนออนไลน์ จะมีการใช้ไพ่จำนวนมากถึง 6-8 สำรับในการเล่น แต่โดยรวมแล้วการนับไพ่ก็ยังคงมีข้อดีหรือประโยชน์ต่อเราดังนี้

  • ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนจากเกมที่เน้นดวง มาเป็นการใช้ทักษะการเล่นตามกลยุทธ์ที่เราวางไว้ได้ และกลยุทธ์นี้ก็สามารถใช้ซ้ำได้ไม่มีล้าสมัย
  • หากสามารถทำได้ชำนาญ จะช่วยลดอัตราความได้เปรียบของ คาสิโนออนไลน์ ได้เกือบถึง 0 อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาสามัญก็จริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าดีสำหรับเรามาก ๆ
  • เป็นกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง และสามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นได้ดีอีกด้วย

5 วิธี ทำกำไร ไม่ง้อ แบล็คแจ็ค

แล้วการนับไพ่ไม่ผิดกฎหมายหรือ

ถ้าเรามองในแง่ของกฎหมายเพียงอย่างเดียว ก็ขึ้นอยู่กับว่าบ่อนหรือ คาสิโนออนไลน์ เหล่านั้นมีกฎหมายคุ้มครองไปถึงการใช้วิธีนับไพ่หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องนี้ เพราะมันถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเล่นที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามในวงการคาสิโนก็ไม่มีที่ไหนให้การยอมรับในเรื่องนี้ พวกเขามองว่ามันคือการพยายามแฮ็กข้อมูลบางอย่าง เหมือนกับว่าเราเป็นฝ่ายโกงหรือทำผิดกติกา สุดท้ายก็ต้องโดนแบนไม่ให้เล่น BlackJack ตลอดไปเหมือนกับพระเอกคนดังที่ใช้เทคนิคนับไพ่จนคาสิโนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับเขาแทน

เมื่อใช้ได้ทำไมถึงควรเลี่ยงการนับไพ่

เห็นความพิเศษขั้นสุดของสูตร BlackJack นับไพ่กันไป หลายคนคงร้อนวิชา แต่อยากจะเตือนก่อนว่าของแบบนี้เลี่ยงได้ควรเลี่ยงจะดีกว่าครับด้วยเหตุผลดังนี้

  • หลังจากที่ผ่านช่วงขั้นต้นไปได้ การนับไพ่จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
  • การนับไพ่ไม่ใช่เทคนิคที่จะใช้ได้ในทุกสถานการณ์ มีหลายครั้งที่มันมักจะไม่ทำงานตามที่คาดการณ์ไว้
  • ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนับไพ่สำเร็จได้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดันของคาสิโน แม้แต่ คาสิโนออนไลน์ ก็ยังมีวิธีที่จะลดอัตราความสำเร็จในการนับไพ่ของเราเสมอ
  • เมื่อเทียบกับจำนวนครั้งที่ทดลองนับไพ่แล้ว กำไรที่ได้ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อคิดเป็นกำไรต่อรอบการเล่น
  • หากถูกคาสิโนจับได้อย่างดีก็คงให้เปลี่ยนโต๊ะ หรือหนักสุดก็คือขอให้เลิกเล่น แบล็คแจ็ค ตลอดไปแค่นั้นเอง

ถ้าไม่นับไพ่แล้ว จะเอาชนะ BlackJack ได้อย่างไร

อุตส่าห์ฝากความหวังไว้กับการนับไพ่มาตั้งนาน สุดท้ายเหมือนกับโดนทุบความฝันทิ้งไป จริงอยู่ว่าเทคนิคนี้มันทรงพลัง แต่พลังที่มากมันก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามผมอยากจะบอกว่าการนับไพ่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะเอาชนะ คาสิโนออนไลน์ ได้ มันเป็นเพียงแค่หนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้ในการเอาชนะเจ้ามือต่างหาก

นั่นหมายความว่า ต่อให้ไม่สามารถนับไพ่ได้ เราก็ยังมีกลยุทธ์อีกมากมายที่จะเอาชนะไพ่ แบล็คแจ็ค และในที่นี้ผมมี 2 ทางเลือกมาให้ลองนั่นก็คือ

  • Hold Carding มันคือเทคนิคการชี้ชัดว่า Hole Card ของอีกฝ่ายคืออะไร จากนั้นก็ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับไพ่ใบ นั้น จริงอยู่ว่าเราไม่สามารถมองเห็นได้ว่าไพ่ใบนี้คืออะไร แต่เราสามารถใช้การคาดคะเนร่วมกับการนับไพ่หรืออ่านไพ่ก็ได้
  • Front Loading เมื่อ Hole Card คือไพ่คว่ำของเจ้ามือ Front Loading ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้ามือทำการแจก Hole Card โดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่ดึงไพ่ออกจากสำรับ โดยเราต้องพยายามระบุให้ได้ว่าไพ่ใบต่อไปจะเป็นอะไรแล้วค่อยปรับกลยุทธ์ให้เข้ากัน

รวมศัพท์เกมไพ่BlackJack

สรุปก็คือการนับไพ่ แบล็คแจ็ค นั้นเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ระดับความยากมันจะแปรผันตามจำนวนสำรับไพ่ที่ใช้ในการเล่น ยิ่งมีไพ่มากยิ่งทำให้ยากที่จะควบคุมมันได้ กว่าจะไปถึงจุดที่เรียกว่าสำเร็จ เมื่อหันไปมองบัญชีที่ลงไว้จะรู้ว่ามันแทบจะเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงควรที่จะศึกษากลยุทธ์อื่น ๆ เผื่อไว้บ้าง เพราะในการเล่นจริงเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างใจนึกแน่นอน

Last Updated on 11 months by admin11

Categories
เกมไพ่ BlackJack เทคนิค BlackJack

รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

( รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A ) เวลาเล่น แบล็คแจ็ค สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่อยากเจอก็คือไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ A เพราะไพ่ใบนี้มันจะทำให้เราตัดสินใจได้ยากขึ้นว่าจะหมอบดีไหม หรือว่าจะทำประกันเดิมพันเผื่อไว้ดี ต้องมาคิดอีกว่าถ้าไพ่อีกใบของเจ้ามือไม่ใช่ 10 แต้มล่ะ จะเสียเงินฟรีไหม คือถ้าเป็นมือใหม่เจอไพ่ A ใบเดียวอาจมีเสียกระบวนเลยก็ได้ วันนี้เราจะไปดูกันว่าจะรับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A กันครับ

การแยกไพ่ในเกมไพ่แบล็คแจ็คมีทั้งข้อห้ามและข้อที่ต้องทำนะรู้ยังคลิกอ่าน 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้าม ในการแยกไพ่ BlackJack

เจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

ทำไมไพ่ A ถึงน่ากลัวใน BlackJack

ในบรรดาไพ่ทั้งหมดที่ใช้เล่น แบล็คแจ็ค ไพ่ A เป็นไพ่ที่มีความผันผวนมากที่สุด คือสามารถเป็นไพ่ที่แข็งที่สุดและอ่อนที่สุดในใบเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าไพ่ที่อยู่ด้วยคือไพ่อะไร หากเป็นจำพวกไพ่ 10 แต้มอย่าง 10, J, Q และ K จะทำให้ไพ่ A มีค่าเป็น 11 แต้มในทันที ขณะเดียวกันถ้าไพ่ใบนี้ไปอยู่กับไพ่หลักหน่วยจำพวก 2-9 ไพ่ A จะมีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้น

การที่จะเล่น BlackJack ไม่ว่าจะเป็นใน คาสิโนออนไลน์ หรือที่ไหนก็ตามเราควรจะศึกษากฎการเล่นให้ดี แต่ละที่แต่ละเกมอาจมีการปรับกฎเกี่ยวกับไพ่ใบนี้ เช่น บังคับให้แยกไพ่โดยปริยายเมื่อได้ไพ่คู่ AA (ถ้าไม่ยอมแยกก็ต้องหมอบ), แยกไพ่ A แล้วก็จะจั่วไพ่ได้อีก 1 ใบ แถมพอจั่วได้ไพ่ 10 แต้มหลังจากแยกคู่ AA แล้วก็ยังไม่นับว่าเป็น แบล็คแจ็ค อีก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ไม่ขอเจอไพ่นี้ก่อนจะดีกว่า แต่สิ่งที่เราจะพูดกันในวันนี้คือการรับมือกับเมื่ออีกฝ่ายได้ไพ่ A กันครับ

ไพ่ A ใบแรก กับเจ้ามือ BlackJack

การที่เจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็นไพ่ A เรียกได้ว่าสร้างความปวดหัวอยู่ไม่น้อย ด้วยไพ่ที่มีมากถึง 6-8 สำรับ ทำให้เรานับไพ่ลำบาก ยากจะคาดเดาโอกาสที่เจ้ามือจะติด แบล็คแจ็ค ด้วยไพ่ใบถัดใบ จึงทำให้ คาสิโนออนไลน์ มักจะมีข้อเสนอให้เราทำประกันเดิมพันกรณีที่เจ้ามือติด แบล็คแจ็ค

นอกจากจะมีโอกาสชนะด้วยไพ่สองใบแรกแล้ว จากสถิติหากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือไพ่ A มีโอกาสมากถึง 90% ที่จะได้แต้มรวม 17-21 แต้ม ด้วยไพ่ใบที่สอง และมีโอกาสแพ้เพียงแค่ 10% เท่านั้น เลยกลายเป็นว่าฝั่งเราต้องรับแรงกดดันเพื่อที่จะตัดสินใจว่าควรเล่นด้วยตัวเลือกไหนดี

คุณอาจสนใจอยากได้สูตรเดินเงินเกมไพ่แบล็คแจ็คคลิกอ่าน สูตรเดินเงิน BlackJack Martingale เสียไปก็ได้คืน

รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

วิธีสู้กับเจ้ามือที่ถือไพ่ A

  • วางประกันเดิมพัน

ในการเล่น แบล็คแจ็ค หากเจ้ามือหงายไพ่ A ออกมา เราจะมีทางเลือกก็คือ จะวางประกันเดิมพันหรือไม่ โดยที่เราจะได้รับผลตอบเทนในกรณีที่ไพ่อีกใช้ของเจ้ามือเป็นไพ่ 10 แต้ม ซึ่งจะนำไปสู่การชนะด้วย BlackJack และชนะในทันที

หลังจากที่ได้รับข้อเสนอมา หากเราต้องการซื้อประกันดังกล่าวไว้ ส่วนใหญ่จะต้องวางเงินเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเดิมพันที่เราวางไว้ อัตราจ่ายเงินประกันอยู่ที่ 2-1 ในกรณีที่เจ้ามือได้ แบล็คแจ็ค สำหรับการวางประกันเดิมพันจะส่งผลอยู่ 3 กรณีคือ

  • ถ้าเจ้ามือชนะด้วย BlackJack เราจะเสียเดิมพัน แต่ได้เงินประกันพร้อมกำไร
  • ถ้าเจ้ามือชนะด้วยแต้มที่มากกว่า เราจะเสียทั้งเงินเดิมพันและเงินประกัน
  • ถ้าเจ้ามือแพ้ เราจะเสียเงินประกัน แต่ได้เงินเดิมพันพร้อมกำไร

การวางประกันเดิมพัน วัตถุประสงค์หลักก็คือใช้ชดเชยมือที่แพ้ แต่มันก็มีความเสี่ยงเหมือนกันว่าเราอาจเสียมากกว่าเดิมหากอีกฝ่ายชนะด้วยแต้มที่มากกว่า

ถึงอย่างนั้นการวางประกันเราก็ต้องดูจากความเป็นไปได้ด้วยว่ามันมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่อีกฝ่ายจะติด BlackJack และจากความน่าจะเป็นโอกาสที่จะติดไพ่อื่นย่อมมากกว่าไพ่ 10 แต้มอยู่แล้ว

  • ใช้ไพ่ที่มีอยู่ในมือ

ทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายถือไพ่ A ไว้ อย่าเพิ่งตกใจไป ให้ดูก่อนว่าไพ่ในมือเราเป็นอย่างไร หากมีใบใดใบหนึ่งที่เป็นไพ่ A ถือว่าเรามี “มืออ่อน” คือไพ่นี้เป็นได้ทั้ง 1 แต้ม และ 11 แต้ม แต่ก็มีข้อดีตรงที่เรามีวิธีรับมือที่หลากหลายมากขึ้น

ก่อนอื่นดูว่าแต้มอีกใบของเรามากหรือน้อย ถ้าเป็นแต้ม 2-7 ก็มีโอกาสที่จะจั่วไพ่ให้มากขึ้น แต่ถ้าเป็นไพ่ 8-9 ความเสี่ยงก็จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เพราะมีโอกาสมากที่แต้มเราจะทะลุ 21 จากการจั่วไพ่ใบที่สาม

แต่ถ้าเป็น “มือแข็ง” คือไม่มีไพ่ A อยู่ในมือเลย ตามกฎแล้วเราก็จะต้องจั่วให้ได้แต้มรวมไม่น้อยกว่า 15 แต้ม หรือจะ Stand ที่ 17-21 แต้มก็ได้

  • ยอมแพ้เสียดีกว่า

หากคิดว่ายังไงก็แพ้แล้วล่ะก็ เราสามารถยอมแพ้ได้ก่อนที่จะมีการจั่วไพ่เพิ่ม โดยเราจะได้รับเงินเดิมพันกลับคืนมาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

อย่างไรก็ตามการที่จะเอาชนะ คาสิโนออนไลน์ ที่มีไพ่ A อยู่ในมือก่อนแล้วนั้นใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ครับ เพียงแต่เราต้องดูสถานการณ์โดยรอบว่ามีหนทางไหนบ้างที่เราจะสู้ได้ บางทีอาจต้องใช้กลยุทธ์ แบล็คแจ็ค หรือสูตรเดินเงินต่าง ๆ เข้ามาลดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญคือสติ โปรดอย่าลืมว่าถึงไพ่ A จะใหญ่ที่สุด แต่มันก็มีความเล็กที่สุดในตัว ถ้าเรามัวแต่กลัว บางทีอาจแพ้เอาง่าย ๆ ทั้งที่เรามีไพ่เหนือกว่าอีกฝ่ายครับ

Last Updated on 11 months by admin11

Categories
สูตร BlackJack เกมไพ่ BlackJack

สูตร BlackJack 1326 กลยุทธ์ทุนต่ำกำไรสูง

สูตร BlackJack 1326 กลยุทธ์ทุนต่ำกำไรสูง

( สูตร BlackJack 1326 กลยุทธ์ทุนต่ำกำไรสูง )เมื่อเทคนิคการเล่นคือสิ่งที่จะช่วยให้มีโอกาสชนะเพิ่มขึ้น กลยุทธ์ก็เป็นอีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในการเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในคาสิโนหรือ คาสิโนออนไลน์ เพราะเป้าหมายสำคัญของเราคือการทำกำไรให้ได้มากที่สุดในเวลาอันสั้นนั่นเอง แต่สภาพที่ทุนไม่หนาเช่นนี้ผมอยากพาทุกคนไปรู้จักกับสูตร BlackJack 1326 กันครับ สูตรนี้ใช้เงินไม่มาก ให้ผลตอบแทนสูง ว่าแต่เป็นอย่าไร ดีแค่ไหน ไปดูกันเลยครับ

ใครที่เบื่อการเล่นไพ่แบล็คแจ็คแบบเดิมๆ อยากเล่นในรูปแบบใหม่ๆไม่ซ้ำซาก อ่านต่อ แบล็คแจ็คออนไลน์ มิติใหม่ของการเล่น BlackJack

สูตร BlackJack 1326

สูตร BlackJack 1326 คืออะไร

กลยุทธ์ 1326 จะเรียกว่าเป็นบรรพบุรุษของสูตรเดินเงิน 1324 ที่นักพนันทั่วโลกคุ้นเคยเลยก็ว่าได้ สูตรนี้เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 2006 แนวคิดของกลยุทธ์นี้คือ วางเดิมพัน 1 หน่วย ชนะได้กำไรกลับมา 1 หน่วย ถ้าเสียคือเหลือ 0 กลยุทธ์นี้จึงเหมาะกับเกมพนันที่มีโอกาสแพ้ชนะ 50 : 50 และมีรูปแบบการวางเดิมพันที่ไม่หลากหลายมากนักอย่าง แบล็คแจ็ค

หลักการทำงานของสูตร BlackJack 1326 ก็คือเราจะต้องแบ่งเงินทุนที่มีอยู่ออกเป็นหน่วยลงทุนเสียก่อน แล้วให้แบ่งรอบการเดิมพันออกเป็น 4 รอบ ในแต่ละรอบจะวางเดิมพันแตกต่างกันไปคือ รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย รอบที่ 2 วางเดิมพัน 3 หน่วย รอบที่ 3 วางเดิมพัน 2 หน่วย และรอบสุดท้ายวางเดิมพัน 6 หน่วย ซึ่งถ้าเราสามารถเอาชนะได้ทุกรอบ เราจะได้กำไรทั้งหมด 12 หน่วย ด้วยทุนเพียงแค่ 2 หน่วยเท่านั้น แถมยังมีความเสี่ยงต่ำแค่ 20%

แต่เงื่อนไขสำคัญของการใช้สูตร 1326 ก็คือ ถ้าเราแพ้ขึ้นมาไม่ว่ารอบไหนก็ตามให้กลับไปเริ่มต้นรอบที่ 1 ใหม่เสมอ ว่าแล้วก็ดูตารางนี้กันเลยครับ จะเห็นว่าในแต่ละรอบเราจะสามารถทำกำไรหรือขาดทุนอย่างไร

สูตร BlackJack 1326

จากตารางเราจะใช้ทุนในแค่ 2 หน่วยคือในรอบแรก 1 หน่วย และเพิ่มในรอบที่ 2 อีก 1 หน่วย ส่วนอีกหน่วยที่เอามาเล่นคือกำไรที่ได้จากรอบที่ 1 นอกจากนั้นก็ใช้กำไรที่ได้มาเล่นกันยาวเลย

วิธีใช้สูตร BlackJack 1326

เนื่องจาก แบล็คแจ็ค มีอัตราจ่ายที่หลากหลายตามรูปแบบการเอาชนะ แต่ในที่นี้ผมจะยกตัวอย่างการชนะแบบธรรมดาซึ่งมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 1 เนื่องจากเป็นรูปแบบการแพ้ชนะที่พบได้บ่อยมากจะได้เข้าใจสูตรนี้กันง่ายขึ้นครับ

รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย

  • ถ้าชนะได้กำไร 1 หน่วย กำไรสะสมยังคงเป็น 0
  • ถ้าแพ้ก็จะเสียทุนไป 1 หน่วย

รอบที่ 2 วางเดิมพัน 3 หน่วย

ในรอบนี้จะใช้ทุนกับกำไรที่ได้มาของรอบที่แล้วทั้งหมด 2 หน่วย บวกกับทุนใหม่อีก 1 หน่วย

  • ถ้าชนะได้กำไร 3 หน่วย กำไรสะสมตอนนี้คือ 4 หน่วย (รอบแรกได้มา 1 รอบนี้อีก 3)
  • ถ้าแพ้ก็จะเสียทุนไป 2 หน่วยกับกำไรอีก 1 หน่วย กำไรสะสมก็จะกลายเป็น 0

รอบที่ 3 วางเดิมพัน 2 หน่วย

หลังจากที่ชนะมาแล้ว 2 รอบ เราจะเอากำไรที่ได้มาเล่นในรอบนี้ ส่วนเงินทุนก็เก็บเข้ากระเป๋าไป

  • ถ้าชนะได้กำไร 2 หน่วย กำไรสะสมจะเพิ่มเป็น 6 หน่วย
  • ถ้าแพ้จะเสียกำไรไป 2 หน่วย เหลือกำไรอีก 2 หน่วย

รอบที่ 4 วางเดิมพัน 6 หน่วย

ในรอบที่ 3 เราได้กำไรสะสมมาแล้ว 6 หน่วย เราจะเอามาเทหมดหน้าตักในรอบนี้ เพราะถึงเสียไปก็แค่กำไรที่ได้มา

  • ถ้าชนะได้กำไร 6 หน่วย กำไรสะสมทั้งหมดเป็น 12 หน่วย
  • ถ้าแพ้เสียกำไรทั้งหมดที่ได้มาตั้งแต่รอบแรก โดยที่ไม่เสียทุนเลยแม้แต่หน่วยเดียว

เพิ่มโอกาสชนะ ไพ่แบล็คแจ็ค

สูตร แบล็คแจ็ค 1326 เสี่ยงแค่ไหน

ทั้งจากตารางทั้งตัวอย่างที่ผมยกไปจะเห็นได้ว่าในรอบที่ 1 และ 2 เท่านั้นที่เรามีความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนไป ดังนั้นเราจึงต้องอ่านไพ่ของเราและของเจ้ามือให้ขาดใน 2 รอบนี้ให้ได้ โอกาสที่จะชนะติดกันใน 2 รอบ คือ 25%

หลังจากนั้นในรอบที่ 3 และ 4 ถ้าแพ้ขึ้นมาก็จะไม่กระทบกับเงินทุนแม้แต่น้อย และถ้าเป็นสูตร 1324 ในรอบสุดท้ายถึงแพ้ก็ยังได้กำไร 2 หน่วย ต่างจากสูตร 1326 ที่จะมีแค่รอบที่ 3 เท่านั้นที่แพ้แล้วยังเหลือกำไรกลับบ้าน

ดังนั้นโอกาสชนะของสูตรนี้จะเริ่มจาก 50%, 25%, 12.5% และ 6.25% ในรอบสุดท้าย หรือก็คือมันจะลดลงจากรอบก่อนหน้าครึ่งหนึ่งทุกครั้ง ยิ่งเล่นโอกาสชนะยิ่งน้อย เราถึงต้องใช้เทคนิคการอ่านไพ่และการรู้จังหวะเล่นด้วยตัวเลือกต่าง ๆ เข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะให้กับเรา

ประกันไม่ได้มีแต่ประกันชีวิต สุขภาพเท่านั้นนะ ประกันแบล็คแจ็คก็มีแต่จะเป็นอย่างไร กรุณาอ่านต่อ BlackJack ประกันภัย ประกันอย่างไรถึงจะคุ้ม

บทสรุปสูตร BlackJack 1326

จากที่ผมได้ทดลองสูตรนี้ร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ ด้วยมันจะสามารถทำงานได้ดี คือปั่นกำไรให้เราได้แบบต่อเนื่องเมื่อเราชนะติดกันสัก 2-3 รอบ หรือชนะติดกันแบบถี่ ๆ แต่ถ้าเราเล่นแพ้ชนะสลับกันไปคือแพ้ค่อนข้างเยอะ หรือแพ้ติดกัน อันนี้จะทำให้เราเสียไปเรื่อย ๆ ทีละหน่วย

วิธีแก้ของผมก็จะเน้นไปที่ตั้งหน่วยลงทุนให้เป็นขนาดเดิมพันขั้นต่ำของโต๊ะไว้ก่อน อย่างน้อยเวลาเสียก็จะได้เสียช้า ๆ มีเวลาให้เราปรับไปใช้กลยุทธ์อื่น หรือเวลาที่เล่นได้มันก็จะไม่ไปชนเดิมพันขั้นสูงของโต๊ะเข้าให้ โดยเฉพาะในรอบสุดท้ายที่เราต้องวางเดิมพัน 6 หน่วย หากมูลค่ารวมแล้วทะลุเพดานโต๊ะ เพราะส่วนใหญ่ คาสิโนออนไลน์ จะมีการกำหนดตรงนี้ไว้เพื่อกันไม่ให้ตัวเองต้องจ่ายเงินออกมาทีละเยอะ ๆ

BlackJack

และก่อนจากกันผมก็อยากจะบอกว่าถึง แบล็คแจ็ค จะใช้ฝีมือการเล่นมากกว่าดวง ต่อให้เรามีทักษะหรือการเล่นที่เจ๋งแค่ไหนมันก็ยังไม่พอ ถ้าไม่รู้จักใช้กลยุทธ์หรือสูตรเดินเงินเข้าช่วย สิ่งเหล่านี้มันจะทำให้เราทำกำไรจาก คาสิโนออนไลน์ ได้ไวในระยะสั้น แต่ถ้าเราเอาแต่เดิมพันโดยใช้อัตราจ่ายปกติไปเรื่อย ๆ ต่อให้เล่นได้ พอนั่งนานเกินไปก็เสียคืนให้เจ้ามืออยู่ดี เรียกว่าเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเลยล่ะครับ

Last Updated on 11 months by admin11