LOGO blackjackarmy
LOGO blackjackarmy
Categories
สูตร BlackJack เกมไพ่ BlackJack

สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า

สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า

( สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า ) ถึง คาสิโนออนไลน์ จะมีความได้เปรียบในเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ต่ำกว่าเกมพนันรูปแบบอื่น ถึงอย่างนั้นเราก็จะเห็นได้ว่าฝั่งคาสิโนเองก็พยายามที่จะสร้างความได้เปรียบขึ้นมาด้วยข้อเสนอที่เย้ายวนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสำรับไพ่ให้มากขึ้น ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีโอกาสชนะมากขึ้น มีรูปแบบการชนะที่หลากหลาย และยังให้อัตราจ่ายสูงสุด ๆ อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่านั่นแหละคือหลุมพรางใหญ่ที่ คาสิโนออนไลน์ วางเอาไว้ไม่ให้เรารู้ตัว

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ

ทำไมต้องใช้สูตร BlackJack ล้มโต๊ะด้วย

จริงอยู่ว่าการเพิ่มสำรับไพ่ที่ใช้ในการเล่นมันช่วยให้เราสามารถเอาชนะได้หลายรูปแบบ จากเดิมที่ใช้ 1 สำรับ เราก็ลุ้นแค่ให้ติด แบล็คแจ็ค ไม่ก็แต้มไม่เกิน 21 แต้ม แต่พอเพิ่มเป็น 4 สำรับ 6 สำรับ ก็ได้ลุ้นอีกว่าจะติดไพ่ตองไหม ไพ่เรียงจะมาตอนไหน อัตราจ่ายสูงสุดก็หลักร้อยเท่า เงินเยอะล่อใจไม่น้อยทีเดียว

ถ้าใครที่เล่น คาสิโนออนไลน์ มานานจะรู้ว่ายิ่งอัตราจ่ายสูงหมายความว่าเรามีโอกาสชนะน้อยมาก ต่างจากพวกที่อัตราจ่ายต่ำ ๆ เราจะมีโอกาสชนะเยอะกว่า แต่เมื่อโดนเขามัดมือชกมาแบบนี้ ก็มีแต่ต้องเล่นกันไปตามกฎ เพราะถ้าไม่เอาชนะด้วย แบล็คแจ็ค ตั้งแต่คู่แรกที่ได้ ก็หมายความว่าเกมนี้มันต้องยืดเยื้อ ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีวิธีที่จะเอาชนะเจ้ามือได้แค่เข้าใจสูตร BlackJack

ที่ผ่านมาไม่นานมานี้เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮากันมาในวงการ แบล็คแจ็ค หนักมากก็คือ Ben Affleck ดาราระดับ ฮออลีวู้ด ถูก คาสิโนออนไลน์ เอาไปขึ้นแบล็คลิสเพราะเขาใช้สูตร BlackJack ในการเล่นด้วยเทคนิคการนับไพ่ ซึ่งใครก็รู้ว่ามันยากมาก ๆ ที่จะทำแบบนี้ได้ แต่ไม่ต้องห่วงครับ สูตรล้มโต๊ะที่จะเอามาแชร์ในวันนี้มันไม่หนักหัวเกินไปแน่นอน

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน สูตร BlackJack 1326 กลยุทธ์ทุนต่ำกำไรสูง

เทคนิคการจั่วไพ่ในสูตร BlackJack ล้มโต๊ะ

การนับไพ่ถือว่าเป็นเทคนิคพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการจำและการประมวลผลค่อนข้างสูง แต่การจั่วไพ่เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับการเล่น แบล็คแจ็ค ซึ่งมีแค่ 2 เหตุการณ์เท่านั้นคือ

เหตุการณ์ที่ 1 : Soft Hand หรือที่เรียกกันว่ามือที่เล่นง่าย โดยดูจากไพ่ที่ได้รับแจกจากเจ้ามือ 2 ใบแรกว่ามีไพ่ A ติดมาด้วยหรือไม่ เพราะในเกมนี้ไพ่ A ถือเป็นไพ่หน้าใหญ่ที่สุด (ถ้ามันอยู่ถูกที่นะ) ถ้ามีไพ่ใบนี้มาให้ดูว่าไพ่อีกใบของเราคืออะไร แล้วเจ้ามือได้กี่แต้ม

  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น 2 หรือ 3 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 5-6 แต้ม ให้ทำการ Double Down (เพิ่มเดิมพันเป็น 2 เท่า) ไปเลย แต่ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นล่ะก็ ให้ Hit (จั่วเพิ่ม) แทน
  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น 4 หรือ 5 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 4-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้มากกว่า 6 แต้ม ให้เราเลือก Hit ไปก่อน
  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น 6 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 3-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้ 7 แต้มขึ้นไปให้ Hit แทน
  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น 7 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น 2, 7 หรือ 8 แต้ม ให้เรา Stand (อยู่เฉย ๆ) แต่ถ้าเจ้ามือได้ 3-6 แต้ม ให้เรา Double แต่ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นแทน ก็ให้เราเลือก Hit
  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น 8 หรือ 9 แต้ม ให้เรา Stand เพราะตอนนี้ถือว่าแต้มเราค่อนข้างสูงมากแล้ว หาก Hit ไปมีแต่จะเสี่ยงเกิน 21 แต้ม
  • ถ้าไพ่อีกใบเป็น A ให้ Split (แยกไพ่) จะทำให้เราได้เล่นเพิ่มอีกขา จากนั้นก็ Hit เพิ่มตามเหตุการณ์ Soft Hand เหมือนเดิม

สูตร BlackJack

เหตุการณ์ที่ 2 : Hard Hand อันนี้จะเล่นยากไปอีกนิดตามชื่อแหละครับ เพราะว่า Hard Hand คือการที่ในมือเราไม่มีไพ่ A เลยสักใบ ก็เลยต้องมาดูว่าแต้มรวมของเราเป็นอย่างไร บวกกับดูเจ้ามือไปด้วยว่าไพ่ใบแรกของเขานั้นได้กี่แต้ม

  • ถ้าแต้มรวมได้ไม่เกิน 8 แต้ม ห้ามทำ Double Down เด็ดขาด แต่ให้ Hit แทน
  • ถ้าได้แต้มรวม 9 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่แรก 3-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าได้แต้มอื่นก็ให้เลือก Hit
  • ถ้าได้แต้มรวม 10 แต้ม แล้วเจ้ามือได้ไพ่แรก 2-9 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าได้นอกเหนือจากนี้ก็ให้ใช้ Hit
  • ถ้าได้แต้มรวม 11 แต้ม แล้วเจ้ามือได้ไพ่แรก 2-10 แต้ม ให้เรา Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ A ฝั่งเราก็ต้องเป็นฝ่าย Hit เอา
  • ถ้าได้แต้มรวม 12 แต้ม ฝั่งเจ้ามือได้ไพ่ 2-3 แต้ม แบบนี้เราก็ Hit ได้ แต่ถ้าเจ้ามือได้ 4-6 แต้ม ให้เราเลือก Stand แว้นแต่ว่าเจ้ามือจะได้ไพ่มากกว่า 6 แต้ม เราถึงจะ Hit
  • ถ้าได้แต้มรวม 13-16 แต้ม และเจ้ามือได้ 2-6 แต้ม ตรงนี้เราจะ Stand ก่อน ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นถึงค่อย Hit เอา
  • ถ้าได้แต้มรวม 17-21 แต้ม ให้ Stand เท่านั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงแต้มไพ่เกิน 21 แต้ม

ได้เห็นเทคนิคการจั่วไพ่กันไปแล้ว เพื่อความเข้าใจกันแบบเห็นภาพ ผมจะยกตัวอย่างการเล่น แบล็คแจ็ค ผ่าน คาสิโนออนไลน์ ให้ดูดังนี้ครับ

  • เปิดเกมมาสมมติว่าผมเล่นพร้อมกันสองขา วางเดิมพันขาละ 50
  • ไพ่แรกเจ้ามือได้ 3 แต้ม ดังนั้นมีโอกาสที่เจ้ามือจะได้แต้มสูงสุดอยู่ที่ 13 – 14 แต้ม หากไพ่ใบที่สองออก 9 หรือ 10 แต้ม
  • ไพ่ขาแรกของผมออกคู่ 55 ตามกฎแล้วไม่สามารถแยก ผมเลยเลือก Hit เอา เพราะถ้า Double จะมีโอกาสจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียว
  • อีกขาหนึ่งของผมได้ 16 แต้ม ขณะที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ 3 แต้ม ผมเลยเดินตามสูตรด้วยการ Stand ไว้ เพราะแต้มสูงแล้วไม่อยากเสี่ยงแต้มเกิน
  • หลังจาก Hit กองแรกแล้วได้ J มา เท่ากับว่าตอนนี้ผมมีแต้มรวม 20 แต้ม แน่ล่ะครับว่าต้อง Stand หนทางเดียวที่จะแพ้เจ้ามือก็คือ โดนเจ้ามือ Hit จนติด 21 แต้มเท่านั้น แต่มันก็มีโอกาสยากมาก และก็แอบเสียดายที่ไม่ได้เลือก Double Down ถึงอย่างนั้นมันก็คือความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ครับ
  • เมื่อผม Stand ไปแล้วทั้งสองขา เจ้ามือก็ต้องทำตามกฎคือ Hit ไปจนกว่าแต้มรวมจะได้ 17 แต้มขึ้นไปถึงจะ Stand ได้ สุดท้ายเจ้ามือแต้มเกิน รอบนี้ผมเลยชนะทั้งสองขา ได้กำไรกลับมา 100 บาท (อัตราจ่าย 1 : 1 สำหรับการชนะปกติ)

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

เป็นอย่างไรกันบ้าง ง่ายกว่าการนั่งนับไพ่ใช่ไหมครับ ขอแค่เราจำสูตร BlackJack ตรงนี้กับกติการการเล่นให้แม่นแค่นั้นเอง เราก็สามารถเอาชนะได้ง่าย ๆ แล้ว แต่การวางเดิมพันเพิ่มหรือ Double Down ก็ต้องดูด้วยว่าเราพร้อมที่จะเสียเงินตรงนั้นไปหรือไม่หากต้องแพ้ขึ้นมา ถ้าคิดว่ารับได้ก็ลงไปเลยครับ โชคอาจเข้าข้างบ้างก็ได้ แต่ถ้าไม่ ก็เล่นแบบผมไปมันก็โอเคอยู่นะกับการหากำไรจาก คาสิโนออนไลน์ ได้น้อยแต่ได้ชัวร์

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

4 ความต่างที่ต้องรู้ก่อนเล่นระหว่าง BlackJack กับ Poker

4 ความต่างระหว่าง BlackJack กับ Poker

( 4 ความต่างระหว่าง BlackJack กับ Poker ) ในวงการนักพนันเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกมพนันที่มีมากหน้าหลายตาทุกวันนี้มันถูกพัฒนามาจากต้นกำเนิดแค่ไม่กี่อย่าง หากจะแยกตามอุปกรณ์ ก็จะมี ไพ่ ลูกเต๋า วงล้อ ทายเลข และพวกทายผลกีฬา โดยเฉพาะไพ่มีหลายคนที่ค่อนข้างเข้าใจผิดหรือจำสับสน เอากติกาหรือวิธีเล่นไปปนมั่วกันหมด ยิ่ง BlackJack กับ Poker หากไม่ใช่การเล่นบน คาสิโนออนไลน์ แค่เข้าใจผิดผมว่ามีวุ่นวายกันแน่นอน

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ เล่น BlackJack Online ปลอดภัยจริงหรือ

เกมไพ่แบล็คแจ็ค

แม้ว่า BlackJack กับ Poker จะใช้ไพ่แค่ 1 สำรับ กับผู้เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แถมยังมีการเรียกไพ่ชุดต่าง ๆ ที่คล้ายกันอีก อย่าง Straight, Flush, Straight Flush เวลาเล่นก็ยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ มีการหมอบไพ่เหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่าในความคล้ายกันตรงนี้มันมีอะไรที่แตกต่างกันมาก ว่าแล้วไปดูกันครับว่า แบล็คแจ็ค กับ โป๊กเกอร์ นั้นต่างกันตรงไหนบ้าง

อุปกรณ์การเล่น

หากเป็นการเล่นทั่ว ๆ ไปแบบไม่ใช่ไปเล่นตามบ่อนหรือคาสิโน ทั้งสองเกมนี้จะใช้ไพ่เพียงแค่ 1 สำรับเท่านั้น แต่ถ้าเป็น คาสิโนออนไลน์ เกม แบล็คแจ็ค จะเพิ่มไพ่ที่ใช้ในการเล่นเป็น 4 สำรับ สำหรับการเล่นแบบอเมริกัน หรือ 6 สำรับ ในรูปแบบการเล่นสไตล์ยุโรป ขณะที่โป๊กเกอร์นั้นยังใช้ไพ่ 1 สำรับเหมือนเดิม

รูปแบบการเล่นและวิธีเล่น

การเล่นโป๊กเกอร์จะมี 2 แบบ ก็คือ Cash Game กับ Tournament ทั้งสองแบบจะแตกต่างกันที่ Cash Game จะจบการเล่นและจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ชนะเพียงคนเดียวในโต๊ะนั้น ส่วน Tournament ผู้เล่นจะได้รับรางวัลก็ต่อเมื่อเป็นผู้ชนะของรายการ คือจะต้องเอาชนะในแต่ละโต๊ะให้ได้เพื่อเข้ารอบต่อไปเรื่อย ๆ

ส่วนวิธีเล่นโป๊กเกอร์ใน 1 เกมจะแบ่งออกเป็น 5 รอบ คือ Pre-Flop, Flop, Turn, River และ Show Down ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจัดไพ่ในมือให้เข้ากับไพ่กองกลางเพื่อให้ได้ชุดไพ่หรือมือที่ดีที่สุด การวัดผลแพ้ชนะจะเป็นการวัดกันระหว่างผู้เล่น และในแต่ละรอบผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะหมอบ, เพิ่มเดิมพัน, อยู่เฉย ๆ หรือจะวางเดิมพันตามผู้อื่น

แต่ แบล็คแจ็ค จะแตกต่างออกไปคือไม่ว่าจะมีผู้เล่นกี่คนก็ตาม จะเป็นการแข่งกันระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ โดยผู้เล่นจะต้องพยายามทำแต้มรวมของไพ่ในมือให้ได้มากกว่าเจ้ามือและต้องไม่เกิน 21 แต้ม ส่วนเจ้ามือเองก็ต้องทำแต้มให้ได้ระหว่าง 17-21 แต้ม จากนั้นค่อยมาวัดผลกับผู้เล่นทีละคน ใครชนะก็ได้เงินไป ใครแพ้ก็เสียเงิน

ในกรณีที่ผู้เล่นต้องการเลิกเล่นระหว่างเกม โป๊กเกอร์ จะสามารถเลิกเล่นในรอบไหนก็ได้เพียงแค่หมอบไพ่ก็พอ แต่ถ้าเป็น BlackJack จะหมอบได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในช่วงไพ่สองใบเท่านั้น หากมีการจั่วเพิ่มก็ต้องอยู่ต่อจนกว่าจะถึงรอบวัดไพ่

เกมไพ่โป๊กเกอร์

การนับแต้มไพ่

สำหรับ แบล็คแจ็ค จะนับแต้มไพ่จากหน้าไพ่เท่านั้น โดยที่ดอกไพ่จะไม่ส่งผลถึงขนาดไพ่ ดังนี้

  • ไพ่ A มีค่าเป็น 1 แต้ม เมื่ออยู่กับไพ่ 2-9 แต่จะมีค่าเป็น 11 แต้ม เมื่ออยู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K
  • ไพ่ 2-9 มีค่าตามหมายเลขหน้าไพ่
  • ไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเป็น 10 แต้ม

ส่วน โป๊กเกอร์ ดอกไพ่จะมีผลต่อขนาดไพ่ โดยเรียงจากใหญ่ไปหาเล็ก คือ โพธิ์ดำ > หัวใจ > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก ในกรณีที่มีแต้มเท่ากัน จะดูที่ดอกไพ่ว่าใครใหญ่กว่ากัน สำหรับแต้มไพ่มีวิธีการนับดังนี้

  • ไพ่ A จะมีค่าน้อยที่สุดเมื่ออยู่กับชุดไพ่ 2-9 แต่จะมีค่ามากสุดเมื่ออยู่กับชุดไพ่ 10, J, Q, K
  • ไพ่ K มีค่าน้อยกว่า A
  • ไพ่ Q มีค่าน้อยกว่า K
  • ไพ่ J มีค่าน้อยกว่า Q
  • ไพ่ 10-2 มีค่าน้อยกว่า J เรียงตามลำดับตัวเลขจากมากไปหาน้อย

ตรงนี้จะเห็นว่าไพ่ A, 2-9 ของไพ่ทั้งสองแบบจะมีค่าเหมือนกัน แต่ 10, J, Q, K ของโป๊กเกอร์จะมีค่าไม่เท่ากัน ขณะที่ BlackJack ให้ค่าเท่ากันทุกใบคือ 10 แต้ม

 การวัดผลแพ้ชนะและอัตราจ่าย

วิธีวัดผลแพ้ชนะใน โป๊กเกอร์ จะใช้ชุดไพ่ซึ่งเรียงจากคะแนนมากที่สุดไปหาน้อยสุดดังนี้ Royal Flush > Straight Flush > Four of kind > Full House > Flush > Straight > Three of kind > Two pair > One pair > High card และในกรณีแต้มไพ่เท่ากัน หรือมีชุดไพ่เดียวกันจะใช้ดอกไพ่ และไพ่ที่เหลือเป็นตัว Kicker อีกที แม้ว่าในระดับทัวร์นาเมนท์จะมีผู้ชนะได้มากกว่าหนึ่งคน แต่เป็นการชนะแบบลำดับ 1, 2, 3 ดังนั้น โป๊กเกอร์ จึงยากที่จะเป็นเกมจบด้วยผลเสมอกัน ส่วนอัตราจ่ายคือเงินรางวัลทั้งหมดที่อยู่ใน Pot หรือเงินกองกลางที่ทุกคนวางเดิมพันไปนั่นเอง

คาสิโนออนไลน์

แต่ แบล็คแจ็ค ที่เล่นกันใน คาสิโนออนไลน์ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่ผลจะออกมาเสมอ เพราะใช้ไพ่มากกว่า 1 สำรับ และดอกไพ่ก็ไม่มีผลต่อการวัดผล แล้วในการแข่งก็เป็นการสู้กันระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่น ซึ่งสามารถเอาชนะได้หลายรูปแบบดังนี้

  • ชนะด้วย BlackJack (ไพ่สองใบที่รวมกันได้ 21 แต้ม) อัตราจ่าย 3 : 2 หรือ 6 : 5 แล้วแต่โต๊ะ
  • ชนะด้วยแต้มรวมที่มากกว่า และต้องไม่เกิน 21 แต้ม อัตราจ่าย 3 : 2 หรือ 6 : 5 แล้วแต่โต๊ะ
  • ชนะด้วยไพ่คู่ ได้แก่ ไพ่คู่เหมือน อัตราจ่าย 25 : 1, ไพ่คู่สี อัตราจ่าย 12 : 1 และ ไพ่คู่ผสม อัตราจ่าย 6 : 1
  • ชนะด้วยไพ่สามใบ โดยใช้ไพ่เรา 2 ใบกับไพ่หงายของเจ้ามือ 1 ใบ ได้แก่ ไพ่ตองเหมือน อัตราจ่าย 200 : 1, ไพ่เรียงสี อัตราจ่าย 100 : 1 และ ไพ่แต้มรวม 21 แต้ม อัตราจ่าย 15 : 1
  • ชนะด้วยไพ่สามใบของเราฝ่ายเดียว ได้แก่ ตองเหมือน อัตราจ่าย 100 : 1, Straight Flush อัตราจ่าย 40 : 1, ตอง อัตราจ่าย 30 : 1, Straight อัตราจ่าย 10 : 1 และ Flush อัตราจ่าย 5 : 1
  • ชนะด้วย Bet Behind หรือการวางเดิมพันตามผู้อื่น

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ BlackJack กับ Poker เล่นอันไหนดีกว่ากัน

Categories
เกมไพ่ BlackJack เทคนิค BlackJack

14 เคล็ดลับที่จะช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้น

14 เคล็ดลับช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้น

( 14 เคล็ดลับช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้น ) ความยากของมือใหม่หัดเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค มักจะอยู่ที่ไม่รู้จะเล่นยังไงให้ชนะ คาสิโนออนไลน์ จะเล่นของไทยหรือของนอกก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน ทั้งที่วิธีการเล่นก็ไม่ยาก ไม่ต้องใช้สูตรอะไรมากมายก็เล่นได้แล้ว บางทีผมว่าอาจเป็นเพราะไม่รู้เคล็ดลับในการเล่นเสียมากว่า บางครั้งมันก็มีจุดเล็ก ๆ ที่เรามองข้ามไปแต่มันกลับส่งผลต่อเกมมากแบบคาดไม่ถึง และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมผมต้องเอา 14 เคล็ดลับที่จะช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้น มาบอกครับ

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน 5 เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการนับไพ่ BlackJack

  1. อย่ามองข้ามคำศัพท์เด็ดขาด

สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักมองข้ามก็คือเรื่องศัพท์พื้นฐานหรือศัพท์เฉพาะของ แบล็คแจ็ค ส่วนมากจะไปให้ความสำคัญในเรื่องการนับแต้ม กับดอกไพ่เสียมากกว่า แต่รู้หรือไม่ครับว่าในการเล่นตามคาสิโนต่าง ๆ เขามักจะพูดหรือถามกันสั้น ๆ ด้วยคำศัพท์แทน หากเราไม่เข้าใจตรงนี้ นอกจากจะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร อาจนำไปสู่การเล่นผิด ๆ ถูก ๆ อย่างเช่น Double Down ถ้าใครที่ไม่เข้าใจพอได้ไพ่มาสองใบแล้วก็รีบเพิ่มเดิมพันไปเลย แต่ลืมไปว่าหลังจาก Double Down แล้วจะจั่วไพ่เพิ่มได้แค่อีกใบเดียว เรียกว่าเสียโอกาสชนะไปเต็ม ๆ

เคล็ดลับชนะ แบล็คแจ็ค

  1. หาวิธีทำให้เจ้ามือได้เปรียบน้อยลง

ปกติแล้วเจ้ามือจะได้เปรียบเราอย่างชัดเจนก็ต่อมาเราต้องเป็นฝ่ายเล่นก่อน โดนที่ไม่รู้ว่า Hole Card กับไพ่ที่คว่ำอยู่ของอีกฝ่ายคืออะไร ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือเราเองเผลอจั่วจนมีแต้มรวมเกิน 21 มันก็จะทำให้เราแพ้โดยอัตโนมัติถึงแม้ว่าเจ้ามือจะมีแต้มเกิน 21 เหมือนกัน ดังนั้นตลอดเวลาที่เล่นต้องคอยสังเกตด้วยว่าไพ่ในมือเราเป็นอย่างไร ไพ่ใบแรกของเจ้ามือคืออะไร เพื่อคุมแต้มไพ่ให้อยู่เหนือกว่าอีกฝ่าย

  1. เรียนรู้กลยุทธ์ขั้นพื้นฐานไว้เสียบ้าง

กลยุทธ์พื้นฐานในการเล่น แบล็คแจ็ค ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับกฎกติกาที่ใช้ในการเล่น เช่น ถ้าเราอาจจะตัดสินใจหมอบหากเราได้ไพ่ต่ำแล้ว อีกฝ่ายมีไพ่ใบแรกเป็น A เพราะฝั่งนั้นมีโอกาสจะติดแบล็คแจ็ค หรือเลี่ยงที่จะวาง Double Down เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีแต้มสูงในมือ เพื่อที่จะได้มีโอกาสจั่วไพ่ให้ได้แต้มสูงกว่าเจ้ามือมากขึ้น

  1. ศึกษากฎของโต๊ะ แบล็คแจ็ค ก่อนเล่นทุกครั้ง

แม้ว่า BlackJack จะเป็นที่นิยมไปทั่วโลกและมีการใช้กติกาเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ก็มี คาสิโนออนไลน์ บางแห่งมีการปรับเปลี่ยนกฎเล็กน้อย เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง ตั้งแต่การเพิ่มไพ่หลายสำรับในการเล่น จะได้ตรวจสอบได้ยาก โอกาสชนะของผู้เล่นก็น้อยลง รวมไปถึงการขยับแต้มฝั่งเจ้ามือที่จะสามารถ “อยู่” ให้สูงขึ้น เพื่อที่จะได้มีโอกาสจั่วไพ่มากขึ้นนั่นเอง

  1. ไม่ลืมที่จะตรวจสอบกติกาของโต๊ะ

นอกจากกฎแล้วยังมีกติกาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละโต๊ะที่เราเล่น โดยเฉพาะเรื่องของการจ่ายเงิน บางโต๊ะอาจจ่ายให้ในอัตรา 3/2 แต่ถ้าไปเจอโต๊ะที่จ่าย 6/5 ก็ควรเลี่ยง เพราะมีโอกาสชนะน้อยกว่าเห็น ๆ และอีกอย่างที่ควรดูด้วยก็คืออัตราการวางเดิมพันขั้นต่ำสุดและสูงสุดของโต๊ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เราชนเพดานเวลาที่ต้องการจะทำ Double Down

  1. สร้างกลยุทธ์ในแบบฉบับของตัวเอง

อย่าลืมว่าในการเล่น แบล็คแจ็ค ไม่ได้มีแต่เราเท่านั้นที่สามารถใช้กลยุทธ์ได้ ฝั่งเจ้ามือก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน และถ้าเราใช้แต่กลยุทธ์พื้นฐานที่มีรูปแบบตายตัว มันก็ง่ายต่อการคาดเดา ดังนั้นจึงต้องมีรูปแบบการเล่นที่เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม / ลดมูลค่าของเดิมพัน หรือจังหวะการจั่ว การแยกไพ่ เป็นต้น

  1. เพิ่มเดิมพันเมื่ออัตราการเดิมพันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

การวางเดิมพันที่ดีไม่ใช่สักแต่จะเอาสะใจ หรือหวังแต่ได้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ควรทำก็คือมองหาจังหวะที่จะเพิ่มเดิมพัน มองไพ่ในมือแล้วคาดเดาว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่เราจะชนะ ถ้าคิดว่ามีโอกาสมาก ก็ควรจะเพิ่มเดิมพันลงไปเลย

มือใหม่ชนะ แบล็คแจ็ค

  1. ไม่ซื้อประกันโดยไม่จำเป็น

สิ่งหนึ่งที่ต้องจำคือ แม้ว่าการทำประกันภัยจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินเดิมพันไป แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ติด แบล็คแจ็ค ขึ้นมา เราก็ต้องเสียเงินประกันตรงนั้นไปฟรี ๆ  ดังนั้นต้องดูด้วยว่าโอกาสที่เจ้ามือจะชนะด้วย BlackJack มีมากน้อยแค่ไหน โดยดูจากไพ่ที่เหลือในกองกลางเป็นหลัก

  1. รู้จักกำหนดมูลค่าไพ่

ในการเล่นไพ่ชนิดนี้ ไพ่ทุกใบจะมีมูลค่าของมันอยู่ คือ

ไพ่ 2, 3, 4, 5 และ 6 มีค่าเท่ากับ +1

ไพ่ 7, 8 และ 9 มีค่าเป็น 0

ไพ่ 10, J, Q, K และ A มีค่าเท่ากับ -1

จากตรงนี้จะช่วยให้เราประเมินโอกาสแพ้ชนะของเจ้ามือได้ง่ายขึ้น ยิ่งมีไพ่ที่มีค่า -1 ในสำรับมากแค่ไหน โอกาสที่เจ้ามือจะแพ้ให้เราก็จะสูงตามไปด้วย

  1. ทำ Running Count ไปด้วย

การนับไพ่ หรือ Running Count ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่เป็นวิธีที่สามารถใช้กับไพ่เพียง 1 สำรับเท่านั้น โดยการเปิดไพ่ทีละใบ เมื่อเปิดออกมาเราจะบวกมูลค่าไปเรื่อย เช่น ถือไพ่ 2 กับ 5 ไว้ แล้วจั่วได้ A ตอนนี้มูลค่าไพ่เราก็จะเป็น 1 + 1 – 1 = 1 และเมื่อไพ่หมดสำรับ มูลค่าไพ่ในมือควรจะเป็น 0 ถ้าฝึกตรงนี้ให้ไวก็จะทำให้เล่นได้ดีขึ้น

  1. มองให้เห็น True Count

แต่เนื่องจาก คาสิโนออนไลน์ จะใช้ไพ่หลายสำรับในการเล่น Running Count จึงไม่สามารถเข้ามาช่วยเราได้ การนับมูลค่าไพ่ที่แท้จริงเลยเป็นเรื่องที่ต้องรู้และทำให้เป็น เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ หลักการคิดก็ง่าย ๆ คือ True Count หารด้วยจำนวนสำรับของไพ่ที่ใช้เล่น

ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นการเล่นด้วยไพ่ 1 สำรับ หาก Running Count = 3 ก็ถือว่าปกติ แต่ถ้าเป็นระดับ 4 สำรับ หรือ 6 สำรับ ถือว่าน้อยมาก เพราะปริมาณไพ่จะเพิ่มขึ้นและลดโอกาสการชนะไปในตัว เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันชัดขึ้นครับ

ตอนนี้เรามี Running Count = 7 จากไพ่ 2 สำรับ True Count จะอยู่ที่ 3.5 แต่ถ้าเป็น 6 สำรับ จะอยู่ที่ 1.17 ก็อาจจะตัดสินใจได้ง่ายว่าจะสู้ต่อไปหรือว่าหมอบดี ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าไพ่ในมือเราคืออะไร มีกี่แต้ม และต้องระวังอย่าให้เกิน 21 แต้มด้วย

  1. ฝึกรักษา True Count ให้ชำนาญ

เมื่อหามาได้ก็ต้องรักษาให้เป็น แม้ใน คาสิโนออนไลน์ จะไม่มีที่ให้เราฝีก True Count แต่เราก็สามารถฝึกเองได้ โดยเริ่มจากไพ่ 2 สำรับก่อน หงายไพ่ทีละใบ เริ่มจ่ายไพ่เป็นกอง ๆ แล้วก็นับไปตามปกติ เมื่อเราเข้าใจ True Count แล้วก็น่าจะแกร่งพอที่จะไปลองวิชา นอกจากนี้ก็มีคาสิโนบางทีให้เราได้ลองซ้อมก่อนเล่นจริงสองสามรอบอีกด้วย

เพิ่มโอกาสชนะ ไพ่แบล็คแจ็ค

  1. อย่าสนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการนับไพ่

ในช่วงเวลาที่เรานับไพ่อยู่ พยายามอย่าไปสนใจสิ่งรอบข้างให้มากนัก และวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้นับไพ่ได้เก่งขึ้นก็คือการนับในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการรบกวน หรือนับไปด้วยคุยกับคนอื่นไปด้วย เพราะในการเล่นจริงมันจะมีทั้งแรงกดดันและสิ่งต่าง ๆ มารบกวนมากขึ้น

  1. ปรับเปลี่ยนวิธีเล่นตลอดเวลา

ไม่ใช่แค่กลยุทธ์เท่านั้นที่ควรจะมีรูปแบบเฉพาะตัว แต่ตลอดช่วงเวลาที่เราเล่น เราควรจะรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อาจจะเริ่มจากนับไพ่เนียน ๆ ไม่ให้ใครรู้ เพิ่มเดิมพันเมื่อเห็นโอกาส ลดเดิมพันเมื่อคิดว่ายากที่จะชนะ หรือเลิกเล่นไปเลยเมื่อชนะแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับเรามากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำแบบนี้แน่ล่ะว่าฝั่ง คาสิโนออนไลน์ จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเราแทน

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A

Categories
เกมไพ่ BlackJack

5 วิธีที่นักพนันใช้ทำกำไรจาก คาสิโนออนไลน์ แบบไม่ง้อ BlackJack

5 วิธีทำกำไรแบบไม่ง้อ BlackJack

( 5 วิธีทำกำไรแบบไม่ง้อ BlackJack ) สำหรับนักเล่น แบล็คแจ็ค มือใหม่อาจคิดว่าวิธีการเอาชนะเจ้ามือในเกมไพ่นี้มีแต่ต้องลุ้นให้ติด BlackJack เท่านั้น เพราะการจั่วเพิ่มแม้จะมีโอกาสทำแต้มก็จริง แต่มันก็มีความเสี่ยงที่จะแพ้เพราะแต้มเกินได้เช่นกัน แล้วรู้หรือไม่ครับว่าระหว่างที่เรากำลังมุ่งมั่นเอาชนะด้วยไพ่คู่แรกอยู่นั้นมันมีวิธีที่จะเอาชนะเจ้ามือกันได้ง่าย ๆ อีกหลายวิธี โดยที่ไม่ต้องง้อไพ่ แบล็คแจ็ค ว่าแต่มีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลยครับ

สำหรับใครที่มีงบน้อยแต่อยากเอาชนะเกมไพ่แบล็คแจ็คและได้กำไรเยอะๆ เรามีสูตรเดินเงินเกมไพ่แบล็คแจ็ค Winning Martingale แบบความเสี่ยงต่ำแต่กำไรชัวร์ มาให้

เกมไพ่ BlackJack

รู้จักไพ่ที่จะใช้เล่น BlackJack

ก่อนจะไปดูวิธีทำกำไร สิ่งที่เราควรเข้าใจก่อนก็คือไพ่ที่ใช้ในการเล่น แบล็คแจ็ค ปกติทั่วไปหากเป็นการเล่นตามบ้านหรือว่าเล่นกันเอง เราจะใช้ไพ่แค่ 1 สำรับ ก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อมันไปอยูใน คาสิโนออนไลน์ ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นใช้ไพ่ 4 สำรับบ้าง ในการเล่นแบบอเมริกัน หรือใช้ไพ่ 6-8 สำรับ ในการเล่น BlackJack แบบยุโรป ที่ทำแบบนี้นอกจากเพิ่มความสนุกแล้ว ยังเพิ่มโอกาสเสมอ (แน่ล่ะว่าจะเป็นผลดีต่อเจ้ามือ) อีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเพิ่มไพ่มามากแค่ไหน หลักการนับแต้มไพ่ก็ยังเหมือนเดิมคือ

  • ไพ่ A (Ace) จะมีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้นหากอยู่ร่วมกับไพ่หน้า 2-9 แต่ถ้าอยู่คู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K แต้มจะเปลี่ยนเป็น 11 แต้มทันที
  • ไพ่ 10 (Ten), J (Jack), Q (Queen) และ K (King) มีค่า 10 แต้ม
  • ไพ่ 2 – 9 จะมีค่าแต้มตามหมายเลขที่แสดงอยู่บนหน้าไพ่

สำหรับดอกไพ่ และสีไพ่ จะไม่มีผลต่อการนับแต้มไพ่แต่อย่างใด หากแต้มไพ่ทั้งสองฝ่ายเท่ากันจะถือว่าเสมอกัน เช่น เจ้ามือถือ 10 โพธิ์ดำ กับ J หัวใจ ส่วนเราถือ 10 หัวใจ 5 ข้าวหลามตัด และ 5 ดอกจิก แบบนี้จะถือว่าเสมอกันที่ 10 แต้ม ดังนั้นดอกไพ่และสีจะผลต่อรูปแบบการชนะซึ่งจะพูดถึงในหัวข้อถัดไปครับ

ส่วนไพ่ที่อยู่ในมือจะถูกแบ่งออกเป็นอีก 3 ประเภท ได้แก่

  • Hard Hand คือไพ่สองใบแรกที่ได้รับแจกโดยที่ไม่มีไพ่ A
  • Soft Hand คือไพ่สองใบแรกที่ได้รับแจกโดยที่มีใบหนึ่งเป็นไพ่ A
  • Pair คือไพ่สองใบแรกที่มีแต้มเท่ากัน

อีกกลยุทธ์นึงที่ได้ถูกพัฒนามาให้นักนับไพ่โดยเฉพาะนั่นคือ The Knock Out สูตร BlackJack ล้มเจ้าที่ไม่ควรพลาด เพราะมันใช้ได้จริง

5 วิธี ทำกำไร ไม่ง้อ แบล็คแจ็ค

วิธีเอาชนะ BlackJack โดยไม่ติดไพ่ BlackJack

สิ่งสำคัญในการเอาชนะ คาสิโนออนไลน์ ไม่ได้อยู่ที่การติดไพ่ แบล็คแจ็ค ครับ เพราะโอกาสที่จะติดค่อนข้างยาก แล้วสมมติว่าถ้าเราได้คู่ AA ก็จะโดนบังคับให้ Split หรือแยกไพ่อยู่ดี หากแยกไปแล้ว Hit ได้ 10, J, Q หรือ K มาก็ไม่ถือว่าติด BlackJack อีก เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเรามาดูดีกว่าครับว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้เราชนะ คาสิโนออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้ แบล็คแจ็ค กัน

วิธีที่ 1 : เอาชนะด้วยแต้มรวม 21 แต้มหรือใกล้เคียงที่สุด

อันนี้หลายคนคงทราบกันดีแล้ว เพราะมันคือกฎข้อสำคัญในการเอาชนะของเกมนี้ คือเราจะต้องจั่วไพ่ยังไงก็ได้ให้รวมแต้มกันแล้วไม่เกิน 21 แต้ม ถึงอย่างนั้นแต้มก็จะต้องไม่น้อยเกินไปเพราะเสี่ยงที่จะแพ้เจ้ามืออีก เนื่องจากเกมนี้เราไม่สามารถเลือกทิ้งไพ่ได้ เหมือนจะดูยากใช่ไหมครับ แต่อย่าลืมว่าเรามีโอกาสได้ดูไพ่ใบแรกของเจ้ามืออยู่แล้ว ดังนั้นสังเกตว่า

  • ถ้าไพ่ของเจ้ามือออกแต้มตั้งแต่ 2 – 6 แต้ม

หากว่าไพ่ออกมายิ่งแต้มน้อย โอกาสที่เจ้ามือจะจั่วมาแล้วแต้มรวมเกิน 21 ก็จะมีน้อยลงไปด้วย แต่ถ้าติดไพ่ 6 ขึ้นมา เท่ากับว่าเขามีโอกาสมากที่จะจั่วแล้วเกิน เพราะในไพ่กองกลางมีโอกาสที่จะมีไพ่ 10 แต้มเหลือเยอะกว่าไพ่อื่น อีกทั้งเจ้ามือยังโดนบังคับให้จั่วไพ่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แต้มรวม 17 แต้มขึ้นไป ในเมื่ออีกฝ่ายมีโอกาสที่จะแต้มเกินสูง หน้าที่ของเราก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้แต้มไม่เกินแค่นั้นพอ

  • ถ้าไพ่ของเจ้ามือออกแต้มตั้งแต่ 7 แต้มขึ้นไป

แต่ถ้าเจ้ามือจั่วได้ไพ่ 7 แต้มขึ้นไป ถึงจะเหลือไพ่ 10 แต้มในกองกลางเยอะแค่ไหนก็มีโอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจ “อยู่” ทันทีที่ได้ 17 แต้ม ในจังหวะนี้สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการ Double Down เพราะมันเสี่ยงที่จะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะเราจะจั่วได้แค่อีกครั้งเดียวเท่านั้น แต่ควรหันไปจั่วให้ได้แต้มใกล้เคียง 21 แต้มจะมีโอกาสชนะมากกว่า เนื่องจากไม่มีการกำหนดจำนวนครั้งที่จั่วได้นั่นเอง

5 วิธีทำกำไร

วิธีที่ 2 : เอาชนะด้วย Pair

เป็นการเอาชนะด้วยไพ่คู่เท่านั้น ซึ่งจะมีการเอาชนะด้วยวิธีนี้อยู่ 3 รูปแบบคือ

  1. Perfect Pair (ไพ่คู่เหมือน) คือไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีแต้มเดียวกันและเป็นดอกเดียวกัน เช่น 9 โพธิ์ดำสองใบ อัตราจ่ายคือ 25 เท่าของเดิมพัน
  2. Coloured Pair (ไพ่คู่สี) คือไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีแต้มเดียวกันและดอกสีเดียวกัน ได้แก่ โพธิ์ดำ คู่กับ ดอกจิก และหัวใจ คู่กับ ข้าวหลามตัด อย่างเช่น 2 โพธิ์แดง คู่กับ 2 ข้าวหลามตัด เป็นต้น อัตราจ่ายอยู่ที่ 12 เท่าของเดิมพัน
  3. Mixed Pair (คู่ผสม) คือไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีแต้มเดียวกัน จะเป็นดอกไหนก็ได้ เช่น 5 โพธิ์ดำ กับ 5 ข้าวหลามตัด เป็นต้น อัตราจ่ายคือ 6 เท่าของเดิมพัน

 วิธีที่ 3 : เอาชนะด้วย Lucky Lucky

เป็นวิธีการเอาชนะด้วยไพ่ 3 ใบ คือไพ่เรา 2 ใบ กับไพ่หงายของเจ้ามืออีก 1 ใบ การเล่นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าโต๊ะจะมีให้วางเดิมพันหรือไม่ ส่วนรูปแบบการเอาชนะจะมีอยู่ 3 แบบคือ

  • ตองเหมือน คือมีแต้มไพ่เดียวกันและดอกเดียวกัน เช่น เราถือคู่ 77 ไพ่หงายของเจ้ามือเป็น 7 ถือว่าเราชนะตองเหมือน 777 อัตราจ่ายคือ 200 เท่าของเดิมพัน
  • เรียงสี คือมีแต้มไพ่เรียงกัน และต้องมีดอกสีเดียวกัน เช่น 6 โพธิ์ดำ 7 ดอกจิก 8 ดอกจิก อัตราจ่ายคือ 100 เท่าของเดิมพัน
  • แต้มรวม 21 คือไพ่ทั้งสามใบรวมแต้มแล้วจะต้องได้ 21 แต้ม ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกันหรือสีเดียวกันก็ได้ อัตราจ่ายคือ 15 เท่าของเดิมพัน

 วิธีที่ 4 : ชนะด้วย 21+3

จะคล้ายกับการเอาชนะด้วย Lucky Lucky ตรงที่เล่นด้วยไพ่ 3 ใบ แต่มีรูปแบบชนะที่หลากหลายกว่า ดังนี้

  • ตองเหมือน คือไพ่ในมือจะต้องเป็นแต้มเดียวกันและดอกเดียวกันเท่านั้น อัตราจ่ายคือ 100 : 1
  • Straight Flush คือไพ่ในมือมีแต้มเรียงกัน (แต้มต้องไม่กระโดดหรือเว้น) และมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 40 : 1
  • ตอง คือไพ่ในมือมีแต้มเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีดอกหรือสีเดียวกัน อัตราจ่าย 30 : 1
  • Straight คือไพ่ในมือมีแต้มเรียงกัน แต่ดอกและสีสามารถต่างกันได้ อัตราจ่าย 10 : 1
  • Flush คือไพ่ในมือมีดอกเดียวกัน แต่แต้มไม่จำเป็นต้องเรียง อัตราจ่าย 5 : 1

วิธีเล่น BlackJack

วิธีที่ 5 : เอาชนะด้วย Bet Behind

สำหรับ แบล็คแจ็ค หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเราสามารถวางเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่นได้ด้วย หรือที่เรียกกันว่า Bet Behind สมมติว่าเราคิดว่าใครจะชนะเราก็วางเดิมพันตามคนนั้นไปเลย แต่ว่าเราจะไม่สามารถไปควบคุมการเล่นของเขาได้ ทำได้แค่ลงเงินอย่างเดียว ถ้าเขาชนะเราก็ชนะ แต่ถ้าเขาแพ้ เราก็เสียเดิมพันไปด้วยแค่นั้นเอง

และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 วิธีที่นักพนันใช้ทำกำไรจาก คาสิโนออนไลน์ แบบไม่ง้อ BlackJack จะเห็นได้ว่าเราไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปหน้าดำคร่ำเครียดกับการได้ไพ่ แบล็คแจ็ค เลยใช่ไหมครับ เพราะเรายังมีวิธีอีกมากมายที่สามารถทำเงินได้ง่าย ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือถ้าเราเล่นได้ ขอให้รีบชิ่งไปเลย จะเปลี่ยนโต๊ะก็ได้หรือไว้มาเล่นวันอื่นก็ดี แม้ว่าค่า House Edge มันจะเข้าข้างเราก็จริงแต่มันก็เป็นแค่ระยะสั้น ๆ หากนั่งเล่นกันนาน ๆ สุดท้ายยังไงก็ต้องเสียเงินคืนให้กับคาสิโนอยู่ดีครับ

 

Categories
เกมไพ่ BlackJack

ย้อนรอย BlackJack จากเกมไพ่สู่ คาสิโนออนไลน์

ย้อนรอย BlackJack จากเกมไพ่สู่ คาสิโนออนไลน์

( ย้อนรอย BlackJack จากเกมไพ่สู่ คาสิโนออนไลน์ ) สิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าสูตรหรือวิธีเล่นการพนัน ก็คือความเป็นมาของมันนี่แหละครับ ถึงแม้ว่าเวลาเราไปเล่นมันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่รู้หรือไม่ว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้เรามั่นใจว่าเกมพนันที่เรากำลังเล่นอยู่นั้นมันไม่ใช่เกมที่คิดมาโดยตาสีตาสา โดยเฉพาะไพ่ แบล็คแจ็ค ที่ถูกยอมรับในระดับสากล คนเล่นกันทั่วโลกแบบนี้ ก็ต้องอยากรู้แล้วล่ะว่าเกมนี้มันมีดียังไง มันเกิดจากไหน แล้วที่เราเล่นทุกวันนี้มันมีอะไรเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ในการแยกไพ่ BlackJack บางคนอาจยังไม่รู้ว่ามีเรื่องที่ทำได้กับเรื่องที่ห้ามทำเด็ดขาด ซึ่งเรากำลังจะบอกต่อไปนี้กับ 6 สิ่งควรทำ 3 สิ่งต้องห้ามในการแยกไพ่ BlackJack

ย้อนรอย แบล็คแจ็ค

BlackJack คืออะไร

แบล็คแจ็ค หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งก็คือ Twenty-one หรือไพ่ยี่สิบเอ็ด เป็นเกมพนันที่ใช้ไพ่แค่ 1 สำรับในการเล่น วัดผลแพ้ชนะกันระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ กติกาก็ง่าย ๆ ใครได้แต้มไพ่รวมเกิน 21 แต้มแพ้ ได้แต้มรวมน้อยกว่าเจ้ามือ ก็แพ้อีก วิธีชนะจึงต้องจั่วยังไงก็ได้ไม่ให้เกิน 21 แต้มและมีแต้มมากกว่าเจ้ามือ แต่ถ้าใครได้ 21 แต้มตั้งแต่ช่วงแจกไพ่ แบบนี้ก็จะถือว่าได้ BlackJack นั่นเอง

BlackJack มาจากไหน

ใครที่เล่นไพ่บน คาสิโนออนไลน์ เคยสังเกตหรือไม่ครับว่าทำไมคาสิโนแถวบ้านเราถึงไม่ค่อยมี แบล็คแจ็ค ให้เล่น แต่ถ้าเป็นของโซนยุโรปกับอเมริกาถึงมีกันแทบทุกเจ้า ใช่ครับ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานชัดเจนแต่ก็เชื่อกันว่าการเล่นไพ่รูปแบบนี้มันเกิดจากประเทศฝรั่งเศส ในเกมที่ชื่อว่า vingt-et-un หรือที่แปลว่า 20 และ 1 หรือก็คือ 21 นั่นเอง วิธีเล่นก็คือจะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน (เหมือนที่เล่นกันทุกวันนี้) จากนั้นก็มาลุ้นกันว่าแต้มรวมของใครจะมากที่สุด แต่ต้องไม่เกิน 21 แต้ม

นอกจากนี้ยังมีเกมไพ่อีกหลายเกมในยุโรปที่มีการเล่นคล้ายกันไม่ว่าจะเป็นของอิตาลีที่ใช้แต้มรวม 7.5 ในการตัดสิน หรือในสเปนที่ใช้แต้มสูงถึง 31 แต้ม ทว่าเกมไพ่ 21 แต้มได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกาช่วงปี ค.ศ. 1800 จากการที่ปรับอัตราจ่ายเป็น 10 ต่อ 1 ถ้าผู้เล่นสามารถเอาชนะได้ด้วย 21 แต้มจากไพ่สองใบแรกเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านั้นยังไม่ค่อยมีคนเล่น จึงต้องมีการปรับกฎการเล่นอัตราจ่ายเพื่อให้มีความน่าสนใจ และกฎ แบล็คแจ็ค ก็ถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้

จากนั้นไม่นานการเล่น BlackJack ก็แพร่หลายไปตามคาสิโนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในแถบเนวาด้า, ลาสเวกัส จนได้รับการยอมรับให้เป็นเกมพนันที่ถูกกฎหมาย ก่อนที่จะพัฒนาวิธีการเล่นมาเรื่อย ๆ จนอยู่บน คาสิโนออนไลน์ ในทุกวันนี้

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ Hole Carding แค่มองไพ่ได้ก็ชนะ BlackJack

เพิ่มโอกาสชนะ BlackJack ง่าย ๆ ด้วยสิ่งนี้

ความได้เปรียบ เสียเปรียบ ของ BlackJack

หากมองในแง่ของค่า House Edge หรืออัตราความได้เปรียบของ คาสิโนออนไลน์ ถือว่า แบล็คแจ็ค เป็นเกมพนันที่สร้างความได้เปรียบให้กับคาสิโนน้อย เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ยากต่อการควบคุม โดยเฉพาะผู้เล่นที่สามารถใช้เทคนิครวมไปถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่จะเอามาสู้กับเจ้ามือ ดังนั้นผู้เล่นจึงควรมีเทคนิค วิธีการเล่นที่ดี เพื่อที่จะทำกำไรได้ตามต้องการ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

แม้ว่าในบางสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่า คาสิโนออนไลน์ จะได้เปรียบกว่า แต่ถ้าผู้เล่นเห็นว่าสู้ต่อแล้วไม่คุ้ม หรือมีโอกาสที่แพ้ให้กับเจ้ามือ ผู้เล่นก็ยังมีทางเลือกที่จะให้ตัวเองเสียหายน้อยที่สุด อย่างเช่น การหมอบไพ่เพื่อยอมแพ้ ก็จะทำให้ผู้เล่นได้รับเดิมพันกลับไปครึ่งหนึ่งจากที่วางไว้ หรือจะเป็นการทำประกันเดิมพันหากคิดว่าเจ้ามือจะติด แบล็คแจ็ค ซึ่งถ้าเจ้ามือติดขึ้นมาจริง ผู้เล่นก็จะได้รับเงินเดิมพันคืนพร้อมกับเบี้ยประกันที่จ่ายไปอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ ผู้เล่นยังสามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ด้วยการวางเดิมพันเป็น 2 เท่า เมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบแบบชัดเจน ขณะที่ฝั่งเจ้ามือจะไม่สามารถเพิ่มเงินเดิมพันได้ รวมถึงการเพิ่มโอกาสชนะให้กับตัวเองด้วยการแยกไพ่คู่ที่ได้รับมา ทำให้สามารถเล่นพร้อมกันได้หลายขา

ถึงอย่างนั้นในความได้เปรียบก็มีความเสียเปรียบซ่อนอยู่เสมอ อย่างเช่นเวลาที่เราเล่น แบล็คแจ็ค ผ่าน คาสิโนออนไลน์ เราอาจตัดสินใจหมอบพลาดก็ได้เพียงเพราะเราคิดว่าแต้มไพ่ของเรามันมีโอกาสที่จะชนะน้อย ทั้งยังไม่รู้เลยว่าฝั่งเจ้ามือจะมีไพ่เหนือกว่าหรือไม่ จริงอยู่ว่าถ้ายอมหมอบจะได้รับเงินเดิมพันกลับมาครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเราหมอบพลาดก็เท่ากับเสียโอกาสไปเต็ม ๆ

ย้อนรอยเกมไพ่ แบล็คแจ๊ค

ดังนั้นผู้เล่น แบล็คแจ็ค มืออาชีพส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยหมอบกันเพียงแค่เห็นแต้มไพ่สองใบแรก แต่พวกเขาเลือกที่จะจั่วไพ่เพิ่มจนกว่าจะได้แต้มที่พอใจ ตราบใดที่เรายังไม่หมอบก็ยังมีโอกาสชนะ 50/50 ซึ่งบางทีเจ้ามืออาจแพ้เราก็ได้หากเราอ่านทางไพ่ถูก ตรงกันข้ามถ้าเราหมอบตั้งแต่ต้นก็เท่ากับเอาโอกาสชนะโยนทิ้งไปโดยปริยาย

มาถึงตรงนี้ก็คงพอจะเข้าใจภาพรวมของ แบล็คแจ็ค กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับพรรคพวกที่บ้าน หรือจะมาหาค่าขนมใน คาสิโนออนไลน์ BlackJack ก็ยังคงใช้กฎกติกาพื้นฐานเดิมเหมือนกัน จะมีแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยแล้วแต่รูปแบบของเกม และกฎของโต๊ะเล็ก ๆ น้อย ๆ ขึ้นอยู่กับว่าคาสิโนจะกำหนดออกมาอย่างไร

Categories
เกมไพ่ BlackJack เทคนิค BlackJack

เพิ่มโอกาสชนะ BlackJack ง่าย ๆ ด้วยสิ่งนี้

เพิ่มโอกาสชนะ BlackJack ง่าย ๆ ด้วยสิ่งนี้

( เพิ่มโอกาสชนะ BlackJack ง่าย ๆด้วยสิ่งนี้ )หากว่าเรามองแบบผิวเผิน อาจคิดว่าไพ่ แบล็คแจ็ค เป็นเกมพนันที่ต้องใช้ดวงเป็นหลัก เพราะเราไม่สามารถเลือกไพ่ได้ จั่วมาแล้วก็ทิ้งไม่ได้อีก คือต้องระวังแบบสุดตัวเพื่อที่จะไม่ให้แต้มรวมออกมาเกิน 21 แต้ม ถึงแม้ว่าจะเล่นใน คาสิโนออนไลน์ รู้หรือไม่ครับว่าความจริงแล้วเกมนี้เราสามารถใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มโอกาสชนะให้กับเราได้ด้วย

วิธีการเล่นไพ่แบล็คแจ็คหรือ เกมไพ่ 21 แต้ม บางคนไม่เข้าใจเลยนึกว่าเล่นยาก แต่จริงแล้ว การเล่นไพ่แบล็คแจ็คทำเงินง่าย ไม่เชื่อก็ตามมาดูได้เลย 

เพิ่มโอกาสชนะ BlackJack ง่าย ๆ

BlackJack ใช้กลยุทธ์ในการเล่นได้จริงหรือ

หลายคนอาจคาดหวังว่า แบล็คแจ็ค จะมีสูตรการเล่นหรือสูตรเดินเงินเหมือนบาคาร่า หรือว่าใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนซ่อนกลอย่างโป๊กเกอร์ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันง่ายมาก ๆ เลยครับ เพียงแค่เราอาศัยทักษะการอ่านไพ่เจ้ามือ กับการใช้เทคนิค Double Down ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะและทำกำไรมากขึ้นแล้ว แต่ก่อนอื่นเราไปทบทวนวิธีเล่นกันสักนิดก่อนครับ จะได้มองออกว่าจังหวะไหนเราควรใช้กลยุทธ์ใด ซึ่งผมจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ BlackJack กับ Poker เล่นอันไหนดีกว่ากัน

วิธีเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค

  1. เจ้ามือแจกไพ่ให้กับผู้เล่นคนละใบโดนคว่ำหน้าไพ่ไว้
  2. เจ้ามือแจกไพ่ให้กับตัวเอง 1 ใบ โดยหงายหน้าไพ่
  3. เจ้ามือแจกไพ่ใบที่สองให้กับผู้เล่นทุกคนและตัวเอง โดยคว่ำหน้าไพ่ไว้
  4. เมื่อผู้เล่นดูไพ่ของตัวเองแล้ว สามารถเลือกจั่วไพ่เพิ่มได้ตามต้องการเพื่อให้ได้แต้มที่พอใจ
  5. เจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกของตัวเอง แล้วรอให้ผู้เล่นคนอื่นจั่วไพ่จนครบ
  6. หลังจากจั่วไพ่ครบแล้ว เจ้ามือจะเปิดไพ่ใบที่ 2 หากได้แต้มรวมต่ำกว่า 17 แต้ม เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่มไปจนกว่าจะมากกว่าหรือเท่ากับ 17 แต้ม จึงจะ “อยู่” ได้
  7. เมื่อเจ้ามือหยุดจั่วไพ่ ให้ผู้เล่นวัดแต้มไพ่กับเจ้ามือ

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

วิธีอ่านไพ่เจ้ามือ

หากเป็นผู้เล่น แบล็คแจ็ค มือใหม่เชื่อว่าคงไม่เคยได้ยินเทคนิคนี้แน่ แต่สำหรับผู้เล่นที่มีความชำนาญในระดับหนึ่ง พวกเขาจะมีวิธีจับจุดไพ่ของเจ้ามือ โดยดูจากจังหวะที่เจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกให้ผู้เล่นทุกคนดูว่าแต้มไพ่เป็นอย่างไร จากนั้นค่อยคาดเดาเหตุการณ์และพฤติกรรมที่น่าจะเป็น ซึ่งแยกเป็น 2 เหตุการณ์คือ

เมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มไม่เกิน 6 แต้ม

  • ให้เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าไพ่ที่เหลืออยู่ในกองกลางมีโอกาสที่จะมีไพ่ 10 แต้มเยอะกว่าไพ่แต้มอื่น
  • เมื่อแต้มไพ่ใบแรกของเจ้ามือต่ำกว่าหรือเท่ากับ 6 แต้ม มีโอกาสสูงที่เจ้ามือจะจั่วไพ่แล้วได้แต้มรวมเกิน 21 แต้ม
  • โอกาสที่จะได้แต้มเกินสูงก็ต่อเมื่อเจ้ามือได้ไพ่ 6 และมีโอกาสเกินน้อยที่สุดเมื่อได้ไพ่ 2
  • เมื่อเจ้ามือมีโอกาสติดไพ่แต้มสูง สิ่งที่เราต้องทำก็คืออย่าให้แต้มไพ่เราเกิน

เมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือมีแต้มไม่น้อยกว่า 7 แต้ม

  • มีโอกาสมากที่เจ้ามือจะจั่วเจอไพ่ 10 แต้ม ที่มีเหลืออยู่ในกองกลาง
  • ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ 7 มีโอกาสที่เจ้ามือจะหยุดจั่วเมื่อได้แต้มรวม 17 แต้มหรือใกล้เคียง
  • ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ 7 หรือสูงกว่านี้ สิ่งที่ไม่ควรทำคือ Double Down แต่ให้ใช้การจั่วให้แต้มเราใกล้เคียงหรือได้ 21 แต้มแทน

สรุปก็คือไม่ว่าจะเหตุการณ์จะออกมาในรูปแบบไหน สิ่งที่เราต้องจำไว้และระวังในการเล่น แบล็คแจ็ค ก็คืออย่าให้แต้มเกิน 21 แต้มเป็นอันขาด หากเจ้ามือได้ไพ่แต้มต่ำ (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 6) เราจะจั่วหรืออยู่ก็ได้ แต่ถ้าเจ้ามือได้ไพ่แต้มสูง (มากกว่าหรือเท่ากับ 7) เราก็ต้องจั่วไพ่ให้รวมแต้มแล้วได้ใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด แค่นั้นเอง

เพิ่มโอกาสชนะ ไพ่แบล็คแจ็ค

เทคนิคทำกำไรด้วย Double Down

เมื่อการอ่านไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็นการเพิ่มโอกาสชนะให้กับเรา สิ่งที่ควรทำด้วยเสมอในการเล่น BlackJack ก็คือการเพิ่มกำไรในการวางเดิมพันด้วยการ Double Down ซึ่งตลอดทั้งเกมเราจะสามารถทำได้เฉพาะเวลาที่เรามีไพ่อยู่ในมือสองใบและยังไม่ได้จั่วเพิ่มเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิวางเดิมพันสองเท่าได้ สำหรับวิธี Double Down มีเทคนิคดังนี้

  • ควรวางเดิมพันเป็นสองเท่า เมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือออกไพ่แต้มต่ำ คือ ระหว่าง 2 – 6 แต้ม
  • แต่ถ้าไพ่ใบแรกของเจ้ามือออกแต้ม 9 – 11 (A) มีโอกาสที่ติดแต้มสูงหรือ แบล็คแจ็ค ตรงนี้ไม่ควรเสี่ยงทำ Double Down แต่ควรเลือก Insurance (ทำประกันเดิมพัน) แทนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียเดิมพันกรณีที่เจ้ามือติด แบล็คแจ็ค
  • สิ่งที่ต้องจำไว้เสมอก็คือ หลังจากที่เรา Double Down ไปแล้วจะมีโอกาสจั่วไพ่ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงต้องตัดสินใจให้ดี
  • นอกจากดูไพ่ของเจ้ามือแล้ว แต้มไพ่รวมบนมือเราที่เหมาะจะ Double Down ก็คือช่วงแต้ม 10 – 11 แต้ม และเจ้ามือจะต้องได้ไพ่ใบแรกต่ำกว่า 6 แต้มเท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเทคนิคดี ๆ ที่เข้าใจง่าย ๆ แถมยังช่วยให้เรามีโอกาสชนะเพิ่มขึ้น และยังได้เงินจาก คาสิโนออนไลน์ กลับมามากกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราใช้เทคนิคนี้ได้ผลในการเล่น BlackJack ก็คือการควบคุมอารมณ์และหาจังหวะเข้าให้ถูก รู้ว่าช่วงไหนควร Hit จังหวะไหนควร Double Down แล้วตอนไหนทำ Insurance ไปแล้วจะคุ้ม เพียงเท่านี้เราก็จะสนุกไปกับการเล่น แบล็คแจ็ค แล้วล่ะครับ

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

BlackJack American Style เล่นอย่างไรมาดูกัน

BlackJack American Style เล่นอย่างไร มาดูกัน

( BlackJack American Style เล่นอย่างไร มาดูกัน ) แบล็คแจ็ค หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าไพ่ยี่สิบเอ็ด หากเป็นการเล่นปกติทั่วเราแบบบ้าน ๆ เราก็แค่ใช้ไพ่ 1 สำรับ กับคนเล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปก็พอ แต่เมื่ออยู่ใน คาสิโนออนไลน์ จำนวนไพ่จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 6 สำรับ ตามแบบฉบับยุโรปที่จะช่วยให้เรามีโอกาสติด BlackJack เพิ่มขึ้น สำหรับวันนี้ผมมีการเล่นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะพาทุกคนไปรู้จักกันครับ นั่นก็คือวิธีการเล่นแบบ American Style ว่าแต่เล่นยังไงไปดูกันเลย

ก่อนที่คุณจะไปลงเล่นแบล็คแจ็คอย่างจริงจัง นอกจากต้องรู้วิธีเล่น BlackJack แล้วควรรู้เรื่องอัตราการจ่ายมากน้อยอย่างไร เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ

BlackJack American Style

กติกาการเล่น BlackJack แบบ American

สำหรับการเล่น แบล็คแจ็ค แบบอเมริกัน จะแตกต่างจากแบบยุโรปคือจำนวนไพ่ที่น้อยกว่า แบบอเมริกันจะใช้ไพ่ในการเล่นทั้ง 4 สำรับ ขณะที่ฝั่งยุโรปจะใช้ไพ่ 6 สำรับ ส่วนกติกาพื้นฐานยังคงเหมือนเดิมคือผู้เล่นจะต้องรวมแต้มไพ่ให้ได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด ผู้ที่ได้แต้มมากกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งวิธีการนับแต้มไพ่จะเหมือนกันคือ

  • ไพ่ A มีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม แต่จะมีแต้มเป็น 11 แต้ม ก็ต่อเมื่ออยู่คู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K เท่านั้น
  • ไพ่ 2-9 มีแต้มเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่
  • ไพ่ 10, J, Q และ K มีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม

ในเกมไพ่ BlackJack ดอกไพ่จะไม่มีผลต่อการวัดแต้ม ดังนั้นหากแต้มเดียวกันแต่ดอกต่างกันก็ถือว่าเสมอกัน

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คคือ การนับไพ่ BlackJack ซึ่งมีอยู่ถึง 5 เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับการนับไพ่ BlackJack 

หลักการเล่น BlackJack แบบอเมริกัน

รูปแบบการเล่นแบบอเมริกันจะมีความคล้ายกับแบบยุโรป หรือที่เราคุ้นเคยตาม คาสิโนออนไลน์ ทั่วไป เพียงแต่จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างออกไปดังนี้

  • ใช้ไพ่ในการเล่นเพียงแค่ 4 สำรับเท่านั้น
  • เจ้ามือจะสามารถแง้มดูไพ่ของตัวเองที่หงายด้วยไพ่ 10 และไพ่ขอบ ได้แก่ J, Q, K หรือ A
  • เจ้ามือจะสามารถหยุดจั่วไพ่ หรือ “อยู่” ได้ก็ต่อเมื่อมีแต้มรวมของไพ่ในมือไม่ต่ำกว่า 17 แต้มเท่านั้น
  • ผู้เล่นจะสามารถทำ Double Down ได้เฉพาะเวลาที่มีไพ่อยู่ในมือสองใบเท่านั้น
  • หากผู้เล่นได้ไพ่คู่จะสามารถทำ Double Down หลังจากแยกไพ่ได้แล้วเท่านั้น
  • หากเป็นไพ่คู่ AA จะสามารถแยกได้แค่ครั้งเดียว
  • หลังจากที่แยกไพ่คู่ AA แล้วจะสามารถ Hit (จั่วไพ่เพิ่ม) ได้แค่ขาละ 1 ใบเท่านั้น
  • หากไพ่คู่แรกที่ได้เป็นคู่อื่นที่ไม่ใช่ AA จะสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด จนกว่าจะได้แต้มที่พอใจ
  • หากไพ่สองใบแรกที่ได้รวมแต้มแล้วเท่ากับ 20 แต้ม ได้แก่ 10J, 10Q, 10K, JQ, JK และ QK จะสามารถแยกไพ่ได้เช่นเดียวกับไพ่คู่ที่ไม่ใช่ AA

BlackJack-American-Style-เล่นอย่างไร

  • หากจั่วไพ่แล้วติดไพ่คู่อีก สามารถแยกเพิ่มได้อีก รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 4 ขา
  • แบล็คแจ็ค จะนับก็ต่อเมื่อไพ่สองใบแรกเป็น A10, AJ, AQ หรือ AK เท่านั้น
  • หากรวมแต้มไพ่แล้วได้ 21 แต้ม เช่น 777, 597 เป็นต้น จะไม่นับเป็น BlackJack
  • หากแยกไพ่คู่ AA แล้วจั่วติด A10, AJ, AQ หรือ AK จะไม่ถือว่าติด แบล็คแจ็ค
  • หากไม่ต้องการสู้ต่อ จะต้องหมอบในช่วงที่แจกไพ่สองใบแรกเท่านั้น

จะว่าไปแล้วหลักการเล่นพื้นฐานของอเมริกันสไตล์ก็คล้าย ๆ กับมาตรฐานที่ใช้เล่นกันทั่วโลก คือมีการแยกไพ่ จั่วไพ่ เพิ่มเดิมพัน นอกจากนี้ก็แล้วแต่ว่า คาสิโนออนไลน์ แต่ละแห่งจะมีกฎกติกาพิเศษอะไรบ้าง ดังนั้นก่อนเล่นเราก็ต้องดูด้วยครับว่า โต๊ะไหนจะช่วยทำกำไรให้กับเรา จากเงื่อนไขที่เขากำหนดนั่นเอง

เลือกโต๊ะเล่น BlackJack อย่างไรให้ได้กำไรงาม ๆ

แม้ว่า แบล็คแจ็ค จะเป็นเกมไพ่ที่มีค่า House Edge ค่อนข้างต่ำ คือ คาสิโนออนไลน์ มีความได้เปรียบเราน้อยก็จริง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีวิธีที่จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบอีกเล็กน้อย เช่น เพิ่มสำรับไพ่ที่ใช้เล่น รวมไปถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราต้องดูก่อนตัดสินใจเล่นดังนี้

  • จำนวนเดิมพันขั้นต่ำสุดและสูงสุดของโต๊ะ จะต้องสอดคล้องกับแผนการเงินของเรา
  • แต้มต่ำสุดที่เจ้ามือจะหยุดจั่วได้ควรเป็น 16 หรือ 17 แต้ม
  • เงื่อนไขการจ่าย แบล็คแจ็ค เป็นแบบ 3/2 หรือ 6/5 แต่ถ้าเลือกได้ควรเล่น 3/2 จะคุ้มกว่า
  • ดูด้วยว่าโต๊ะนั้นมีประกัน BlackJack ของเจ้ามือหรือไม่ ควรเล่นที่มีการวางประกัน อย่างน้อยเวลาที่เจ้ามือติด แบล็คแจ็ค ขึ้นมาเราก็ยังได้เงินคืน
  • เงื่อนไขการแยกไพ่ต้องดูด้วยว่าให้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งมากยิ่งดี ทั้งนี้ควรดูด้วยว่าโต๊ะให้แยกไพ่ในกรณีไหนบ้าง ตามหลักสากลคือจะแยกได้เฉพาะไพ่คู่ AA กับ 88 เท่านั้น บางที่อาจแยกได้ทุกคู่ รวมไปถึงแยกได้ทุกกรณีโดยไม่จำเป็นต้องเป็นไพ่คู่
  • ดูเงื่อนไข Double Down ด้วยว่าหลังจากแยกไพ่แล้วสามารถเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าได้หรือไม่
  • สำหรับ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งจะมีโต๊ะพิเศษที่เล่นด้วยไพ่ 5 ใบ คือ แจกไพ่ 2 ใบ จั่วเพิ่ม 3 ใบ โดยที่แต้มรวมจะต้องได้ไม่เกิน 21

BlackJack American Style เล่นอย่างไรมาดูกัน

และทั้งหมดนี้ก็คือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราต้องพิจารณาก่อนเล่นเสมอ แม้ว่าโต๊ะที่เราจะเล่นนั้นมีไม่ครบทุกเงื่อนไขก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ให้มีมากที่สุดเป็นใช้ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะและเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการเล่นไพ่ BlackJack ได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้ไพ่ของเจ้ามือมีความได้เปรียบน้อยลงอีกด้วย อย่างไรก็ตามในการเล่นพนันสิ่งที่ควรมีไว้ให้มากไม่ใช่ชิปเดิมพันแต่เป็นสติต่างหากครับ เล่นได้ก็ขอให้รู้จักพอ เล่นเสียก็อย่าไปหัวร้อน ไม่งั้นมีเท่าไหร่ก็ได้เสียให้ คาสิโนออนไลน์ หมดแน่นอน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ พร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

( วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ พร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้ ) นอกจากไพ่บาคาร่า แบล็คแจ็ค ถือได้ว่าเป็นเกมไพ่ที่นิยมเล่นกันมากเป็นอันดับต้น ๆ บน คาสิโนออนไลน์ ทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบฝั่งยุโรป สำหรับในบ้านเราก็อาจจะมีคาสิโนบ้างเจ้าที่ซื้อแบรนด์ยุโรปมาให้บริการ และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะมี BlackJack มาให้เราเล่นด้วย แต่ก่อนที่จะไปเล่นเราไปดูกันดีกว่าว่าไพ่นี้มีวิธีเล่นอย่างไร แล้วอัตราจ่ายมากน้อยแค่ไหน จะได้เตรียมตัวไว้ก่อนเล่น

สิ่งสำคัญสำหรับการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ที่ต้องเรียนรู้และห้ามมองข้ามเด็ดขาดก่อนไปเล่นจริงคือ กฏกติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

วิธีเล่น BlackJack

กติกาพื้นฐานในการเล่น BlackJack

ปกติแล้วหากเป็นการเล่นตามบ้านหรือบ่อนทั่วไปแค่ไพ่ 1 สำรับก็เพียงพอแล้ว แต่ใน คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะใช้ไพ่ 6 สำรับ ที่สับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วใส่ไว้ในขอนไพ่เช่นเดียวกับบาคาร่า จากนั้นก็จะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน คนละสองใบ จากนั้นแต่ละคนก็จะสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้แต้มใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้ม สิ่งที่ต้องจำไว้คือเกมนี้เราจะไม่สามารถทิ้งไพ่หรือเลือกไพ่มาสู้ได้ เท่ากับว่าหากจั่วมาแล้วแต้มเกิน 21 แต้ม เราก็จะแพ้ทันที

สำหรับการนับแต้มไพ่ แบล็คแจ็ค จะมีวิธีการนับดังนี้

  • ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม แต่ถ้าอยู่คู่กับไพ่ 10, J, Q หรือ K จะมีค่าเป็น 11 แต้มทันที
  • ไพ่ 2 – 9 มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่ เช่น หน้าไพ่ 2 ก็จะมีค่าเท่ากับ 2 แต้ม เป็นต้น
  • ไพ่ J, Q และ K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม

ส่วนดอกไพ่จะไม่มีผลในการวัดแต้มไพ่ และจะไม่มีการใช้ Kicker กรณีที่แต้มไพ่เท่ากัน ดังนั้นผลที่ได้ก็จะมี ชนะ เสมอ และแพ้ หลังจากที่ได้รับแจกไพ่แล้ว ผู้เล่นแต่ละคนและเจ้ามือจะต้องเลือกเล่นด้วยตัวเลือกต่อไปนี้

  • Hit เป็นการจั่วไพ่เพิ่มอีกหนึ่งใบ หากแต้มไพ่รวมแล้วน้อยกว่า 21 แต้ม โดยผู้เล่นจะสามารถจั่วได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ ส่วนเจ้ามือจะต้องจั่วเพิ่มเรื่อย ๆ หากแต้มรวมของไพ่สองใบแรกน้อยกว่าหรือเท่ากับ 16 แต้ม และจะไม่สามารถจั่วได้หากแต้มรวมของไพ่สองใบแรกมากกว่าหรือเท่ากับ 17 แต้ม
  • Split เป็นการแยกไพ่ออกเป็นสองชุด จะใช้ในกรณีที่ไพ่สองใบแรกออกเป็นไพ่คู่ AA หรือ 88 เท่านั้น และผู้ที่แยกไพ่จะต้องวางเดิมพันเพิ่มอีกหนึ่งขา หลังจากที่แยกไพ่แล้วหากเป็นไพ่คู่ AA จะสามารถจั่วเพิ่มได้อีกขาละ 1 ใบ แล้วถ้าได้ไพ่ 10, J, Q หรือว่า K จะถือว่าเป็นการติด 21 แต้มธรรมดาเท่านั้น ไม่นับเป็น แบล็คแจ็ค แต่ถ้าเป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถจั่วได้ไม่จำกัด
  • Double Down เป็นการเพิ่มเดิมพันอีกหนึ่งเท่าตัว ซึ่งจะต้องทำในช่วงไพ่สองใบแรกและจะต้องไม่ใช่คู่ แบล็คแจ็ค เท่านั้น และหลังจากเพิ่มเดิมพันก็จะสามารถจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียว

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

  • Surrender เป็นการยอมแพ้ซึ่งจะต้องทำในช่วงไพ่สองใบแรกเท่านั้น โดยผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันคืนกลับไปครึ่งหนึ่ง
  • Insurance เป็นการทำประกันเดิมพัน จะทำเมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A เจ้ามือจะเปิดโอกาสให้ขาบนโต๊ะสามารถทำประกันก่อนที่จะเปิดไพ่ใบที่สองได้ โดยเบี้ยประกันจะต้องจ่ายเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน หลังจากนั้นถ้าเจ้ามือติด แบล็คแจ็ค ผู้เล่นที่ทำประกันจะได้รับเงินประกันและเงินเดิมพันคืน แต่ถ้าไม่ติด BlackJack เงินประกันจะเสียเปล่าทันที
  • เก็บไพ่ หากผู้เล่นติด แบล็คแจ็ค แล้วไพ่ใบแรกของเจ้ามือออก A ผู้เล่นสามารถเลือกเก็บไพ่ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการเสมอกับเจ้ามือ

การชนะด้วย 21+3, Perfect Pair และ Bet Behind

นอกจากการเอาชนะด้วย แบล็คแจ็ค แล้ว (ได้ไพ่คู่ A10, AJ, AQ หรือ AK) และการชนะด้วยแต้มที่มากกว่าเจ้ามือและไม่เกิน 21 แต้ม ยังมีการชนะด้วยรูปแบบอื่น ๆ อีก 3 รูปแบบคือ

แบบ 21+3

เป็นรูปแบบการเอาชนะด้วยไพ่ 3 ใบ โดยไพ่ในมือจะต้องออกชุด ตองเหมือน, ตอง, Straight Flush, Straight และ Flush ซึ่งไพ่แต่ละชุดจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปรวมถึงอัตราจ่ายเรียงจากมือใหญ่ไปเล็กดังนี้

  • ตองเหมือน หมายถึงไพ่สามใบที่มีแต้มเดียวกันและดอกเดียวกัน (มีเฉพาะในเกมที่ใช้ไพ่ 6 สำรับ) อัตราจ่ายคือ 100 : 1
  • Straight Flush หมายถึง ไพ่สามใบที่มีแต้มเรียงกันและมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 40 : 1
  • ตอง หมายถึง ไพ่สามใบที่มีแต้มเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายอยู่ที่ 30 : 1
  • Straight หมายถึง ไพ่ที่มีแต้มเรียงกันสามใบ ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 10 : 1
  • Flush หมายถึง ไพ่สามใบที่มีดอกเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีแต้มเรียงกันก็ได้ อัตราจ่ายอยู่ที่ 5 : 1

วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะ-อัตราจ่าย

แบบ Perfect Pair

จะเป็นการเอาชนะกันด้วยไพ่สองใบแรกเช่นเดียวกับการติด แบล็คแจ็ค โดยเงื่อนไขก็คือไพ่ที่ได้รับต้องเป็นไพ่คู่เท่านั้น โดยแต่ละคู่จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปคือ

  • คู่เหมือน หมายถึงไพ่คู่ที่มีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายคือ 25 : 1
  • คู่สี หมายถึง ไพ่คู่ที่มีดอกสีเดียวกันจะเป็นคนละดอกหรือดอกเดียวกันก็ได้ เช่น โพธิ์ดำ คู่ ดอกจิก (สีดำ) หรือ หัวใจ คู่ ข้าวหลามตัด (สีแดง) อัตราจ่ายคือ 12 : 1
  • คู่ผสม หมายถึง ไพ่คู่ที่มีแต้มเดียวกัน แต่ดอกและสีต่างกัน เช่น โพธิ์ดำ คู่ หัวใจ หรือ ข้าวหลามตัด เป็นต้น อัตราจ่ายคือ 6 : 1

สาเหตุที่ทำให้มีโอกาสติด Perfect Pair ได้หลายคู่ เนื่องจากการเล่น แบล็คแจ็ค ใน คาสิโนออนไลน์ จะใช้ไพ่ตั้งแต่ 6 สำรับขึ้นไปในการเล่นครับ

แบบ Bet Behind

การเอาชนะด้วยรูปแบบนี้จะเป็นการวางเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น จะแพ้หรือชนะขึ้นอยู่กับไพ่ของคนอื่น เรามีหน้าที่แค่วางเดิมพันเท่านั้น และส่วนมากมักจะทำก็ต่อเมื่อเราแพ้ไปก่อนแล้วนั่นเอง

ถึงกติกาการเล่นไพ่แบล็คแจ็คจะไม่ยุ่งยากซ้ำซ้อน แต่ยังมีเรื่องของคำศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack ซึ่งถ้าไม่รู้รับรองได้เลยว่าแพ้แน่นอน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

( กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น )สิ่งสำคัญในการเล่น BlackJack ผมบอกเลยว่าดวงแทบไม่ช่วยอะไรเลย หากว่าทักษะพื้นฐานของเราต่ำเตี้ยเรี่ยดินชนิดที่ว่ากติกาพื้นฐานก็ยังไม่รู้ แล้วยิ่งใครที่จู่ ๆ เข้าไปเล่นแบบรู้แค่แต้มแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่ว่าไม่มีเทคนิคหรือลูกไม้อะไร สุดท้ายก็เป็นได้แค่หมูในอวยที่เข้าไปรอให้เขากินโต๊ะแค่นั้นแหละครับ ส่วนใครที่ไม่อยากมีชะตากรรมเช่นนั้นบน คาสิโนออนไลน์ แล้วล่ะก็ รีบอ่านบทความนี้ให้จบเลย แล้วจะรู้ว่า แบล็คแจ็ค นั้นมันมีอะไรที่จำเป็นมากกว่าดวง

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ 10 เว็บเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ที่ดีที่สุด

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

BlackJack นับแต้มอย่างไร ตอนไหนถึงจะแยกไพ่

สำหรับการนับแต้มไพ่ แบล็คแจ็ค จะต่างจากพวกไพ่อื่น ๆ ที่ใช้แค่หลักหน่วยเป็นตัวชี้ขาด สิ่งสำคัญในการวัดว่าใครแพ้หรือชนะคือแต้มรวมของไพ่ทั้งหมดในมือ ผู้ชนะคือคนที่รวมแต้มแล้วได้ 21 แต้มหรือใกล้เคียงที่สุด ส่วนคนที่ได้แต้มน้อยกว่าหรือว่ารวมแต้มแล้วเกิน 21 แต้มก็จะเป็นผู้แพ้ทันที ว่าแล้วเรามาดูแต้มไพ่กันดีกว่าครับว่าไพ่แต่ละใบมันมีกี่แต้ม จะได้ไม่พลาดกัน

  • ไพ่ A (Ace) เป็นไพ่เดียวที่มีสองค่าแล้วแต่ว่าจะไปอยู่กับไพ่ใบไหน หากไปอยู่ร่วมกับไพ่ 10, J, Q หรือ K ก็จะทำให้มีค่าเป็น 11 แต้ม และทำให้ติด แบล็คแจ็ค ทันที แต่ถ้าไปอยู่กับพวกไพ่หน้าแต้ม 2-9 ไม่ว่าจะดอกไหนก็มีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้น
  • ไพ่หน้าแต้ม 2-9 เป็นกลุ่มไพ่ที่มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าแต้ม
  • ไพ่หน้า 10, J, Q และ K ทั้งสี่ใบนี้จะมีค่าเท่ากันคือ 10 แต้ม

ส่วนการแยกไพ่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้เล่นติดไพ่คู่ในช่วงสองใบแรก ได้แก่ AA หรือ 88 ซึ่งใน คาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นจะถูกบังคับให้แยกไพ่อัตโนมัติ พร้อมกับบังคับให้วางเดิมพันเพิ่มตามขาที่แยก เพื่อที่จะได้เล่นไพ่ 2 ขาไปพร้อมกัน แต่ถ้าเงินไม่พอให้วางเดิมพัน ระบบก็จะบังคับให้หมอบหรือยอมแพ้นั่นเอง

หลังจากที่แยกไพ่แล้ว หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ AA จะได้รับสิทธิ์เรียกไพ่เพิ่มอีกขาละ 1 ใบ แต่ถ้าได้ไพ่คู่ 88 ก็จะสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจนกว่าเราจะพอใจในแต้มที่คิดว่าใกล้เคียง 21 แต้มแล้ว ในกรณีที่ได้ไพ่คู่อื่น ผู้เล่นจะเลือกอยู่นิ่งก็ได้หากพอใจกับแต้มที่ได้ หรือจะเรียกไพ่เพิ่มก็ได้เช่นกัน

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack และเทคนิคพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

กติกาในการเล่น แบล็คแจ็ค บน คาสิโนออนไลน์

โดยทั่วไปแล้วกติกาในการเล่น BlackJack จะใช้พื้นฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการเล่นตามบ่อนคาสิโน วงไพ่ในบ้าน หรือว่า คาสิโนออนไลน์ เพียงแต่อย่างหลังอาจมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วแต่เจ้ามือ ดังนั้นก่อนเล่นควรจะศึกษากติกาตรงนี้ให้ดีให้เข้าใจเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมาโวยวายกันทีหลังว่าโดนโกง สำหรับกติกาพื้นฐานที่ใช้กันเป็นมาตรฐานสากลก็มีดังนี้

  • ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องจั่วไพ่เพิ่มแล้วรวมแต้มไพ่ในมือให้ได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้มให้มากที่สุด
  • หากผู้เล่นจั่วไพ่แล้วรวมแต้มออกมาเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแพ้ในเกมนั้นทันที โดยไม่สนว่าเจ้ามือจะมีแต้มมากน้อยแค่ไหน เพราะกฎเหล็กของเกมนี้คือ “อย่าให้เกิน 21 แต้ม”
  • ในกรณีที่เจ้ามือรวมแต้มไพ่แล้วได้น้อยกว่า 17 แต้ม จะถูกบังคับให้จั่วไพ่เพิ่มเรื่อย ๆ และจะหยุดจั่วได้ก็ต่อเมื่อแต้มรวมของไพ่อยู่ระหว่าง 17 ถึง 21 แต้มเท่านั้น
  • ฝั่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะจั่วไพ่หรือไม่ก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการจั่ว และไม่สนใจด้วยว่าในมือผู้เล่นจะรวมไพ่แล้วได้กี่แต้ม
  • หากผู้เล่นไม่ทำการจั่วไพ่ในเวลาที่กำหนด ระบบจะถือว่าเรา อยู่ โดยอัตโนมัติ

กติกาการเล่นไพ่ BlackJack

เทคนิคพื้นฐานที่ต้องรู้ในการเล่น BlackJack

แม้ว่า แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ที่แทบจะไม่ต้องใช้ดวง และเน้นไปที่ทักษะฝีมือและประสบการณ์ของผู้เล่นเป็นหลัก ถึงอย่างนั้นสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการก็สามารถนำเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ไปใช้ในการเล่นได้เช่นกันครับ

  • เมื่อใดก็ตามที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือออก A เราควรจะรีบเดิมพันประกันไพ่ทุกครั้ง เพราะจากสถิติแล้วมีโอกาสที่เจ้ามือจะติดไพ่ แบล็คแจ็ค สูงมาก เราเลยต้องทำไว้เพื่อได้คืน แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เจ้ามือไม่ติด แบล็คแจ็ค และเราต้องเสียเงินเปล่าก็ตาม
  • ในกรณีที่ได้ไพ่คู่สูงอย่าง AA, KK, QQ, JJ, 1010 และ 88 ถ้า คาสิโนออนไลน์ เปิดให้เราแยกไพ่ได้ทุกคู่ก็จัดเลย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ แต่สำหรับบางเว็บอาจจำกัดให้แยกได้แค่คู่ AA กับ 88 ถึงอย่างนั้นมันก็ยังควรแยกอยู่ดี ที่สำคัญอย่าลืมดูเงินในกระเป๋าด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นดวงซวยเพราะโดนบังคับให้หมอบเพียงแค่เงินไม่พอให้เล่นสองขา
  • การจั่วไพ่ควรทำด้วยความระมัดระวัง ควรดูด้วยว่าแต้มรวมของไพ่ในมือเราอยู่ประมาณไหน หากรวมแล้วได้ไม่เกิน 11 แต้มก็น่าจั่วเพิ่มอยู่ แต่ถ้าได้สัก 12 หรือ 13 การอยู่จะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะถ้าจั่วเพิ่มมันก็มีความเสี่ยงที่แต้มรวมจะทะลุ 21 แต้ม แทนที่จะชนะก็กลายเป็นแพ้เฉยเลย จำไว้ว่าตราบใดที่เจ้ามือไม่ได้ แบล็คแจ็ค เราก็ยังมีโอกาสชนะเสมอ

สำหรับมือใหม่ที่ยังหาทางเอาชนะเกมไพ่แบล็คแจ็คไม่ได้ ไม่ต้องวิตกไปเพราะเราได้รวบรวม 14 เคล็ดลับที่จะช่วยให้มือใหม่ชนะ BlackJack ได้ง่ายขึ้นมาฝากกัน

Categories
พื้นฐาน BlackJack เกมไพ่ BlackJack

รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

( รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack ) เกมไพ่ แบล็คแจ็ค ถือได้ว่าเป็นเกมไพ่อีกประเภทที่มีคนนิยมเล่นกันมากบน คาสิโนออนไลน์ ทั่วโลก เพราะมันเล่นง่าย กติกาก็ไม่ซับซ้อน แค่เอาแต้มไพ่มารวมให้ได้ตามที่ต้องการก็วัดกันได้เลย ถึงอย่างนั้นใครที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องของคำศัพท์เฉพาะในวงการ BlackJack หรือว่าดูแต้มรวมแต้มไพ่ยังไม่เป็นค่อนข้างอันตรายมากครับ หากรวมแต้มไม่ดีหรือไม่มีความรู้เรื่องนี้อาจแพ้เอาง่าย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้จะชนะแล้วแท้ ๆ ว่าแต่เขาดูแต้มกันอย่างไร มีคำไหนที่เราต้องเข้าใจบ้างไปดูกันเลยครับ

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ 10 เว็บเล่นแบล็คแจ็ค เงินจริง ที่ดีที่สุด

รวมศัพท์เกมไพ่BlackJack

ไพ่ แบล็คแจ็ค คืออะไร

การเล่น BlackJack หากเป็นเมื่อก่อนเราอาจใช้วิธีตั้งวงไพ่เล่นกันเอง จำนวนคนก็ไม่ต้องมากมีแค่ 2 คนก็เล่นได้แล้ว โดยที่มีใครสักคนเป็นเจ้ามือ แต่วิธีนี้มันก็ค่อนข้างที่จะเสี่ยงโดนจับเข้าซังเตอยู่เพราะว่าการพนันในบ้านเรานั้นผิดกฎหมาย ส่วนใครที่มีทุนหน่อยก็อาจไปเที่ยวเล่นในบ่อนคาสิโนของประเทศเพื่อนบ้านก็ได้ หรือถ้าไม่อยากไปไหนก็ คาสิโนออนไลน์ เลยครับมีหลายเจ้าให้เลือกเล่น

สำหรับ คาสิโนออนไลน์ ในไทยเราอาจจะยังไม่ค่อยเจอกันมากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคาสิโนแบรนด์ดังจากฝั่งยุโรปล่ะก็มีหลายเจ้าให้เราเลือกเล่น เพราะมันเป็นเกมที่เน้นทักษะของผู้เล่นเป็นหลัก (แต่ไทยสไตล์ใช้ดวงล้วน ๆ เลยไม่ค่อยชอบเล่น) ความได้เปรียบของคาสิโนก็เลยต่ำ

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ วิธีเล่น BlackJack ให้ชนะพร้อมอัตราจ่ายที่ต้องรู้

ศัพท์ต้องรู้ก่อนเล่น BlackJack

เช่นเคยครับ ไม่ว่าจะเป็นการพนันรูปแบบไหนก็ตามย่อมมีศัพท์เฉพาะที่เราจำเป็นต้องจำไว้เสมอ โดยเฉพาะคาสิโนสดที่อาจต้องมีการอ่านทางผู้เล่นคนอื่นด้วยการดูว่าพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่พูดหรือไม่ เพราะท่าทีที่แสดงออกมาจะฟ้องได้ชัดเลยว่าเป็นมือใหม่หรือเปล่า ส่วนศัพท์ที่เรามักจะเจอก็มี

  • BlackJack อันนี้ไม่ใช่แค่ชื่อเกมแต่หมายถึงไพ่สองใบแรกที่รวมแต้มแล้วได้ 21 แต้มพอดี ได้แก่ไพ่ A10, AK, AQ และ AJ
  • Hit คือการจั่วไพ่เพิ่มเพื่อให้ผลรวมได้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด
  • Stand หมายถึงการนิ่ง หรือที่เรียกว่า “อยู่” จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราคิดว่าแต้มรวมที่ได้ตอนนี้มันโอเคแล้ว หากจั่วเพิ่มก็เสี่ยงที่จะแพ้เพราะแต้มเกิน 21 แต้ม
  • Double Down คือการวางเดิมพันเป็น 2 เท่าในช่วงไพ่สองใบแรก ซึ่งวิธีการวางเดิมพันก็คือเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 1 เท่าของเดิมพันก่อนหน้า แล้วลุ้นว่าไพ่ใบที่ 3 จะออกกี่แต้ม ถ้ารวมแล้วได้มากกว่าเจ้ามือและไม่เกิน 21 แต้มก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายคือ 1 : 1
  • Split คือการแยกไพ่ออกเป็น 2 ชุด ในกรณีที่ไพ่สองใบแรกออกไพ่คู่ AA หรือ 88 โดยเจ้ามือจะถามว่าต้องการแยกไพ่หรือไม่ ถ้าแยกก็ต้องเพิ่มเงินเดิมพัน แล้วเล่นไพ่ 2 ชุดนี้ไปพร้อมกัน
  • Insurance คือการทำประกันเดิมพันกรณีที่ออก BlackJack สมมติว่า ไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันหรือไม่ ด้วยการวางเดิมพัน 50% ของเดิมพันก่อนหน้า ถ้าไพ่ใบที่สองของเจ้ามือออกมาแล้วทำให้ติด แบล็คแจ็ค เราก็จะชนะ อัตราจ่ายคือ 2:1 แต่ถ้าไม่ติด แบล็คแจ็ค เงินประกันที่วางไปก็เสียเปล่า

วิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

วิธีนับแต้มไพ่ BlackJack

ในการเล่น แบล็คแจ็ค ตาม คาสิโนออนไลน์ ส่วนใหญ่จะใช้ไพ่ 6 สำรับสับตำแหน่งไว้แล้วใส่ในขอนคล้ายกับบาคาร่า แต่ไม่ว่าจะใช้ไพ่มากน้อยแค่ไหน การนับแต้มไพ่ก็จะยังเหมือนเดิมคือ

  • ไพ่ A (Ace) มีค่า 1 แต้มเมื่ออยู่กับไพ่แต้ม 2-9 และจะมีค่า 11 แต้มเมื่อออกคู่กับไพ่ 10, J, Q, K
  • ไพ่แต้ม 2-10 มีแต้มไพ่เท่ากับ 10 แต้ม
  • ไพ่หน้า J, Q, K มีแต้มไพ่เท่ากับ 10 แต้ม

ทางเลือกเมื่อออกไพ่คู่และกฎการแยกไพ่

ในการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นนอกจากจะมีโอกาสติด แบล็คแจ็ค แล้ว ยังมีโอกาสที่จะออกไพ่คู่ ได้แก่ AA, 22, 33, 44, 55, 66, 77, 88, 99, 1010, JJ, QQ และ KK โดยไม่สนใจว่าจะเป็นดอกเดียวกันหรือไม่ แต่ในกรณีที่ผู้เล่นได้ไพ่คู่เป็น AA หรือ 88 จะต้องตัดสินใจว่าจะแยกไพ่หรือหมอบ ขณะที่ไพ่คู่อื่นจะมีทางเลือกคือเรียกเพิ่มหรืออยู่

สำหรับการแยกไพ่คือการแบ่งไพ่คู่ AA หรือ 88 ออกเป็นสองชุด (สองขา) โดยจะมีการเรียกเงินเดิมพันจากผู้เล่น ถ้าเป็นระบบ คาสิโนออนไลน์ จะเช็คดูว่ามีเงินมากพอให้แบ่งขาหรือไม่ ถ้าไม่พอก็จะทำการหมอบให้โดยอัตโนมัติ

ความพิเศษในการแยกไพ่จะอยู่ที่ ถ้าเราได้ไพ่คู่ 88 เราจะสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัด จนกว่าจะได้แต้มที่พอใจ ขณะที่ไพ่คู่ AA จะเรียกได้แค่ขาละ 1 ใบเท่านั้น

 

รวมศัพท์ต้องรู้และวิธีดูแต้มไพ่ BlackJack

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับทั้งหมดนี้ เริ่มอยากลองเล่น แบล็คแจ็ค กันแล้วล่ะซิ แต่เดี๋ยวก่อนครับอย่าเพิ่งใจร้อนไป เพราะที่ได้อ่านกันในบทความนี้มันแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ในตอนหน้าเราจะไปดูกันว่ากติกาการเล่น BlackJack มันมีอะไรกันบ้าง มันเข้าใจยากไหม แล้วมีเทคนิคดี ๆ อะไรที่จะช่วยให้เราเล่นไพ่ประเภทนี้ได้ไวขึ้น อดใจเอาไว้แล้วรอติดตามกันในบทความต่อไปได้เลยครับ