สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า
( สูตร BlackJack ล้มโต๊ะ เล่นง่ายสบายกระเป๋า ) ถึง คาสิโนออนไลน์ จะมีความได้เปรียบในเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ต่ำกว่าเกมพนันรูปแบบอื่น ถึงอย่างนั้นเราก็จะเห็นได้ว่าฝั่งคาสิโนเองก็พยายามที่จะสร้างความได้เปรียบขึ้นมาด้วยข้อเสนอที่เย้ายวนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสำรับไพ่ให้มากขึ้น ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีโอกาสชนะมากขึ้น มีรูปแบบการชนะที่หลากหลาย และยังให้อัตราจ่ายสูงสุด ๆ อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่านั่นแหละคือหลุมพรางใหญ่ที่ คาสิโนออนไลน์ วางเอาไว้ไม่ให้เรารู้ตัว
คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน รับมืออย่างไรเมื่อเจ้ามือ BlackJack ได้ไพ่ A
ทำไมต้องใช้สูตร BlackJack ล้มโต๊ะด้วย
จริงอยู่ว่าการเพิ่มสำรับไพ่ที่ใช้ในการเล่นมันช่วยให้เราสามารถเอาชนะได้หลายรูปแบบ จากเดิมที่ใช้ 1 สำรับ เราก็ลุ้นแค่ให้ติด แบล็คแจ็ค ไม่ก็แต้มไม่เกิน 21 แต้ม แต่พอเพิ่มเป็น 4 สำรับ 6 สำรับ ก็ได้ลุ้นอีกว่าจะติดไพ่ตองไหม ไพ่เรียงจะมาตอนไหน อัตราจ่ายสูงสุดก็หลักร้อยเท่า เงินเยอะล่อใจไม่น้อยทีเดียว
ถ้าใครที่เล่น คาสิโนออนไลน์ มานานจะรู้ว่ายิ่งอัตราจ่ายสูงหมายความว่าเรามีโอกาสชนะน้อยมาก ต่างจากพวกที่อัตราจ่ายต่ำ ๆ เราจะมีโอกาสชนะเยอะกว่า แต่เมื่อโดนเขามัดมือชกมาแบบนี้ ก็มีแต่ต้องเล่นกันไปตามกฎ เพราะถ้าไม่เอาชนะด้วย แบล็คแจ็ค ตั้งแต่คู่แรกที่ได้ ก็หมายความว่าเกมนี้มันต้องยืดเยื้อ ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีวิธีที่จะเอาชนะเจ้ามือได้แค่เข้าใจสูตร BlackJack
ที่ผ่านมาไม่นานมานี้เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮากันมาในวงการ แบล็คแจ็ค หนักมากก็คือ Ben Affleck ดาราระดับ ฮออลีวู้ด ถูก คาสิโนออนไลน์ เอาไปขึ้นแบล็คลิสเพราะเขาใช้สูตร BlackJack ในการเล่นด้วยเทคนิคการนับไพ่ ซึ่งใครก็รู้ว่ามันยากมาก ๆ ที่จะทำแบบนี้ได้ แต่ไม่ต้องห่วงครับ สูตรล้มโต๊ะที่จะเอามาแชร์ในวันนี้มันไม่หนักหัวเกินไปแน่นอน
คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน สูตร BlackJack 1326 กลยุทธ์ทุนต่ำกำไรสูง
เทคนิคการจั่วไพ่ในสูตร BlackJack ล้มโต๊ะ
การนับไพ่ถือว่าเป็นเทคนิคพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการจำและการประมวลผลค่อนข้างสูง แต่การจั่วไพ่เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับการเล่น แบล็คแจ็ค ซึ่งมีแค่ 2 เหตุการณ์เท่านั้นคือ
เหตุการณ์ที่ 1 : Soft Hand หรือที่เรียกกันว่ามือที่เล่นง่าย โดยดูจากไพ่ที่ได้รับแจกจากเจ้ามือ 2 ใบแรกว่ามีไพ่ A ติดมาด้วยหรือไม่ เพราะในเกมนี้ไพ่ A ถือเป็นไพ่หน้าใหญ่ที่สุด (ถ้ามันอยู่ถูกที่นะ) ถ้ามีไพ่ใบนี้มาให้ดูว่าไพ่อีกใบของเราคืออะไร แล้วเจ้ามือได้กี่แต้ม
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น 2 หรือ 3 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 5-6 แต้ม ให้ทำการ Double Down (เพิ่มเดิมพันเป็น 2 เท่า) ไปเลย แต่ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นล่ะก็ ให้ Hit (จั่วเพิ่ม) แทน
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น 4 หรือ 5 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 4-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้มากกว่า 6 แต้ม ให้เราเลือก Hit ไปก่อน
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น 6 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรก 3-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้ 7 แต้มขึ้นไปให้ Hit แทน
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น 7 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น 2, 7 หรือ 8 แต้ม ให้เรา Stand (อยู่เฉย ๆ) แต่ถ้าเจ้ามือได้ 3-6 แต้ม ให้เรา Double แต่ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นแทน ก็ให้เราเลือก Hit
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น 8 หรือ 9 แต้ม ให้เรา Stand เพราะตอนนี้ถือว่าแต้มเราค่อนข้างสูงมากแล้ว หาก Hit ไปมีแต่จะเสี่ยงเกิน 21 แต้ม
- ถ้าไพ่อีกใบเป็น A ให้ Split (แยกไพ่) จะทำให้เราได้เล่นเพิ่มอีกขา จากนั้นก็ Hit เพิ่มตามเหตุการณ์ Soft Hand เหมือนเดิม
เหตุการณ์ที่ 2 : Hard Hand อันนี้จะเล่นยากไปอีกนิดตามชื่อแหละครับ เพราะว่า Hard Hand คือการที่ในมือเราไม่มีไพ่ A เลยสักใบ ก็เลยต้องมาดูว่าแต้มรวมของเราเป็นอย่างไร บวกกับดูเจ้ามือไปด้วยว่าไพ่ใบแรกของเขานั้นได้กี่แต้ม
- ถ้าแต้มรวมได้ไม่เกิน 8 แต้ม ห้ามทำ Double Down เด็ดขาด แต่ให้ Hit แทน
- ถ้าได้แต้มรวม 9 แต้ม และเจ้ามือได้ไพ่แรก 3-6 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าได้แต้มอื่นก็ให้เลือก Hit
- ถ้าได้แต้มรวม 10 แต้ม แล้วเจ้ามือได้ไพ่แรก 2-9 แต้ม ให้ Double Down แต่ถ้าได้นอกเหนือจากนี้ก็ให้ใช้ Hit
- ถ้าได้แต้มรวม 11 แต้ม แล้วเจ้ามือได้ไพ่แรก 2-10 แต้ม ให้เรา Double Down แต่ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ A ฝั่งเราก็ต้องเป็นฝ่าย Hit เอา
- ถ้าได้แต้มรวม 12 แต้ม ฝั่งเจ้ามือได้ไพ่ 2-3 แต้ม แบบนี้เราก็ Hit ได้ แต่ถ้าเจ้ามือได้ 4-6 แต้ม ให้เราเลือก Stand แว้นแต่ว่าเจ้ามือจะได้ไพ่มากกว่า 6 แต้ม เราถึงจะ Hit
- ถ้าได้แต้มรวม 13-16 แต้ม และเจ้ามือได้ 2-6 แต้ม ตรงนี้เราจะ Stand ก่อน ถ้าเจ้ามือได้แต้มอื่นถึงค่อย Hit เอา
- ถ้าได้แต้มรวม 17-21 แต้ม ให้ Stand เท่านั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงแต้มไพ่เกิน 21 แต้ม
ได้เห็นเทคนิคการจั่วไพ่กันไปแล้ว เพื่อความเข้าใจกันแบบเห็นภาพ ผมจะยกตัวอย่างการเล่น แบล็คแจ็ค ผ่าน คาสิโนออนไลน์ ให้ดูดังนี้ครับ
- เปิดเกมมาสมมติว่าผมเล่นพร้อมกันสองขา วางเดิมพันขาละ 50
- ไพ่แรกเจ้ามือได้ 3 แต้ม ดังนั้นมีโอกาสที่เจ้ามือจะได้แต้มสูงสุดอยู่ที่ 13 – 14 แต้ม หากไพ่ใบที่สองออก 9 หรือ 10 แต้ม
- ไพ่ขาแรกของผมออกคู่ 55 ตามกฎแล้วไม่สามารถแยก ผมเลยเลือก Hit เอา เพราะถ้า Double จะมีโอกาสจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียว
- อีกขาหนึ่งของผมได้ 16 แต้ม ขณะที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ 3 แต้ม ผมเลยเดินตามสูตรด้วยการ Stand ไว้ เพราะแต้มสูงแล้วไม่อยากเสี่ยงแต้มเกิน
- หลังจาก Hit กองแรกแล้วได้ J มา เท่ากับว่าตอนนี้ผมมีแต้มรวม 20 แต้ม แน่ล่ะครับว่าต้อง Stand หนทางเดียวที่จะแพ้เจ้ามือก็คือ โดนเจ้ามือ Hit จนติด 21 แต้มเท่านั้น แต่มันก็มีโอกาสยากมาก และก็แอบเสียดายที่ไม่ได้เลือก Double Down ถึงอย่างนั้นมันก็คือความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ครับ
- เมื่อผม Stand ไปแล้วทั้งสองขา เจ้ามือก็ต้องทำตามกฎคือ Hit ไปจนกว่าแต้มรวมจะได้ 17 แต้มขึ้นไปถึงจะ Stand ได้ สุดท้ายเจ้ามือแต้มเกิน รอบนี้ผมเลยชนะทั้งสองขา ได้กำไรกลับมา 100 บาท (อัตราจ่าย 1 : 1 สำหรับการชนะปกติ)
เป็นอย่างไรกันบ้าง ง่ายกว่าการนั่งนับไพ่ใช่ไหมครับ ขอแค่เราจำสูตร BlackJack ตรงนี้กับกติการการเล่นให้แม่นแค่นั้นเอง เราก็สามารถเอาชนะได้ง่าย ๆ แล้ว แต่การวางเดิมพันเพิ่มหรือ Double Down ก็ต้องดูด้วยว่าเราพร้อมที่จะเสียเงินตรงนั้นไปหรือไม่หากต้องแพ้ขึ้นมา ถ้าคิดว่ารับได้ก็ลงไปเลยครับ โชคอาจเข้าข้างบ้างก็ได้ แต่ถ้าไม่ ก็เล่นแบบผมไปมันก็โอเคอยู่นะกับการหากำไรจาก คาสิโนออนไลน์ ได้น้อยแต่ได้ชัวร์